เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เข้าตรวจค้นบริษัทโอ้โห สลิมพลัส จำกัด สถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วนชื่อดังโอ้โห ตั้งอยู่เลขที่ 919/54 หมู่ 7 ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ของนายวรกร ยิ้มอยู่ อายุ 32 ปี และ น.ส.ศิรินทรา เส็งสิน อายุ 27 ปี สองสามีภรรยา หลังพบสินค้ามีลักษณะไม่ถูกต้องตามกฎหมายหลายรายการ
นอกจากนี้ สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกยังตรวจพบว่ามีสาร ไซบูทรามีนเป็นสารที่อันตรายต่อสุขภาพ หากรับประทานเป็นเวลานานจะสะสมจนถึงแก่ชีวิตได้ เป็นส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วน และได้เรียกตัวผู้บริหารบริษัทมารับทราบข้อกล่าวหา ตามที่ได้นำสนอเป็นข่าวแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (26 ม.ค.) นายสมพร ทิพยโสตนัยนา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 6 พร้อมด้วย พ.ต.ต.หญิง ศุภวรรณ โพธิ์นาค พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ได้รับมอบสำนวนคดีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วนโอ้โห จาก ร.ต.อ.วิชัย พรมรักษา ตัวแทนพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อรับเป็นคดีพิเศษแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งความดำเนินคดี กับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมคือ น.ส.รุ่งนภา คำมินทร์ กรรมการผู้จัดการ และ น.ส.สุพรรษา โคลงกาพย์ กรรมการผู้จัดการ ของบริษัท อินโนว่า แล็บโบราโทรี่ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 1/1 ถนนร่มเกล้า แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี ที่ถูกว่าจ้างให้ทำการผลิตสินค้าดังกล่าว ในข้อหาจำหน่ายอาหารปลอม หรือ จำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้รับเรื่องทั้งหมดเพื่อไปดำเนินการตามขั้นตอน พร้อมรวบรวมหลักฐานต่างๆ ทั้งในเรื่องของการตรวจสอบทรัพย์สินของบริษัทโอ้โห สลิมพลัส จำกัด ที่จัดจำหน่ายมาเป็นเวลากว่า 1 ปี ว่าได้เสียภาษีถูกต้องตามที่ได้แจ้งกับสำนักงานสรรพากรภาค 7 หรือไม่ โดยหลังจากรับมอบสำนวนคดีในวันนี้ จะทำการสรุปสำนวนคดีส่งอัยการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี
ทั้งนี้หลังจากเกิดเรื่องเป็นคดีความขึ้น ทาง บริษัท โอ้โห สลิมพลัส จำกัด ยังได้มีการผลิตสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วน ออกมาจำหน่ายในโลกออนไลน์อีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางกรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งว่า สามารถจัดจำหน่ายได้ตามปกติ แต่ถ้าหากตรวจพบว่ายังมีสารต้องห้ามผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ ก็จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง โดยจะให้ทางสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกยังตรวจพบว่ามีสาร ไซบูทรามีนเป็นสารที่อันตรายต่อสุขภาพ หากรับประทานเป็นเวลานานจะสะสมจนถึงแก่ชีวิตได้ เป็นส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วน และได้เรียกตัวผู้บริหารบริษัทมารับทราบข้อกล่าวหา ตามที่ได้นำสนอเป็นข่าวแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (26 ม.ค.) นายสมพร ทิพยโสตนัยนา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 6 พร้อมด้วย พ.ต.ต.หญิง ศุภวรรณ โพธิ์นาค พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ได้รับมอบสำนวนคดีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วนโอ้โห จาก ร.ต.อ.วิชัย พรมรักษา ตัวแทนพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อรับเป็นคดีพิเศษแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งความดำเนินคดี กับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมคือ น.ส.รุ่งนภา คำมินทร์ กรรมการผู้จัดการ และ น.ส.สุพรรษา โคลงกาพย์ กรรมการผู้จัดการ ของบริษัท อินโนว่า แล็บโบราโทรี่ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 1/1 ถนนร่มเกล้า แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี ที่ถูกว่าจ้างให้ทำการผลิตสินค้าดังกล่าว ในข้อหาจำหน่ายอาหารปลอม หรือ จำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้รับเรื่องทั้งหมดเพื่อไปดำเนินการตามขั้นตอน พร้อมรวบรวมหลักฐานต่างๆ ทั้งในเรื่องของการตรวจสอบทรัพย์สินของบริษัทโอ้โห สลิมพลัส จำกัด ที่จัดจำหน่ายมาเป็นเวลากว่า 1 ปี ว่าได้เสียภาษีถูกต้องตามที่ได้แจ้งกับสำนักงานสรรพากรภาค 7 หรือไม่ โดยหลังจากรับมอบสำนวนคดีในวันนี้ จะทำการสรุปสำนวนคดีส่งอัยการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี
ทั้งนี้หลังจากเกิดเรื่องเป็นคดีความขึ้น ทาง บริษัท โอ้โห สลิมพลัส จำกัด ยังได้มีการผลิตสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วน ออกมาจำหน่ายในโลกออนไลน์อีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางกรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งว่า สามารถจัดจำหน่ายได้ตามปกติ แต่ถ้าหากตรวจพบว่ายังมีสารต้องห้ามผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ ก็จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง โดยจะให้ทางสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง