นายสุริยะใส กตะศิลา อาจารย์มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามในคดีจำนำข้าวว่า ตนเห็นว่าการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ไปตอบข้อซักถามสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และส่งทนายไปล้วงคำถามแล้วมาตั้งทีมตอบผ่านยูทิวบ์แทนนั้น เป็นการไม่ให้เกียรติ สนช.ไม่เคารพกระบวนการตรวจสอบถอดถอน และถือเป็นการดูถูกประชาชน เพราะเป็นการทำให้ประชาชนเสียโอกาสที่จะได้รับรู้ข้อเท็จจริงของปัญหาจากการซักถามกันในสภาฯ เพื่อประกอบการตัดสินใจของประชาชน และการให้ทีมทนายไปชี้แจงตอบคำถามผ่านยูทิวบ์ แม้เป็นสิทธิ์ที่ทำได้แต่สะท้อนอุปนิสัยของคนกลุ่มนี้ที่พยายามตีรวนกระบวนการถอดถอน หรือถนัดเล่นนอกกติกา และที่เป็นการดูถูกประชาชนมากที่สุด คือ การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เลือกมาเฉพาะวันแถลงเปิดคดีกับวันแถลงปิดคดี เพราะ 2 วันนี้เป็นการพูดฝ่ายเดียว โดยไม่มีการซักถาม และก็คงเป็นไปตามคาดที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คงมายืนอ่านโพยเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นการสะท้อนเจตนาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และทีมงานที่จะใช้กระบวนการถอดถอนเป็นเวทีการเมืองปราศรัยฝ่ายเดียว เพื่อโน้มนำใหัประชาชนเชื่อ และคล้อยตามด้วยโวหารการเมืองที่กำหนดผ่านโพยมาล่วงหน้า และเป็นไปได้ว่าการแถลงปิดคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ คงผูกปมการเมืองบางอย่างไว้เคลื่อนไหวกดดัน หาก สนช.ลงมติถอดถอนตนเอง การไม่ใส่ใจกระบวนการถอดถอนหรือมองข้ามคำถาม ข้อสงสัยของ สนช.แบบนี้ เชื่อว่าจะทำให้การตัดสินใจของ สนช.สายกลางๆ หรือที่ยังไม่ตัดสินใจจะสามารถตัดสินใจไดง่ายขึ้นว่าจะลงมติแบบไหน
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นการสะท้อนเจตนาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และทีมงานที่จะใช้กระบวนการถอดถอนเป็นเวทีการเมืองปราศรัยฝ่ายเดียว เพื่อโน้มนำใหัประชาชนเชื่อ และคล้อยตามด้วยโวหารการเมืองที่กำหนดผ่านโพยมาล่วงหน้า และเป็นไปได้ว่าการแถลงปิดคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ คงผูกปมการเมืองบางอย่างไว้เคลื่อนไหวกดดัน หาก สนช.ลงมติถอดถอนตนเอง การไม่ใส่ใจกระบวนการถอดถอนหรือมองข้ามคำถาม ข้อสงสัยของ สนช.แบบนี้ เชื่อว่าจะทำให้การตัดสินใจของ สนช.สายกลางๆ หรือที่ยังไม่ตัดสินใจจะสามารถตัดสินใจไดง่ายขึ้นว่าจะลงมติแบบไหน