นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งของ จ.จันทบุรี ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นการป้องกันและเตรียมการรับมือ ยังไม่ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้ง เนื่องจากยังไม่วิกฤต แต่ได้มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางมาตรการป้องกัน แก้ไขปัญหาภัยแล้งแล้ว พร้อมทั้งได้ระดมกำลังในท้องถิ่นทำฝายเก็บกักน้ำตามแหล่งน้ำขนาดเล็ก ครอบคลุมทุกตำบลที่เคยประสบปัญหาภัยแล้ง เพื่อชะลอน้ำไว้ใช้ในภาคการเกษตร
ขณะที่ปริมาณน้ำเขื่อนหลักของ จ.จันทบุรี ทั้ง 4 เขื่อน ที่เก็บกักไว้ ซึ่งคาดว่าเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค และภาคการเกษตร จำเป็นต้องบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และต้องใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาภัยแล้ง
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ในขณะนี้ได้เตรียมจัดทำแผนเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2558 แต่งตั้งคณะทำงาน มอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบ พร้อมระดมสรรพกำลัง และอุปกรณ์เครื่องมือ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือปัญหาภัยแล้งที่คาดว่าจะส่งผลกระทบในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ ไว้แล้ว
นอกจากนี้ ได้มีการแจกจ่ายถังน้ำให้กับประชาชนเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภค 1,144 ใบ ปรับปรุงบ่อน้ำบาดาล และบ่อน้ำตื้น 1,209 บ่อ รวมทั้งประสานเตรียมขอเครื่องสูบน้ำเพิ่มจำนวน 30 เครื่อง ด้วย
ขณะที่ปริมาณน้ำเขื่อนหลักของ จ.จันทบุรี ทั้ง 4 เขื่อน ที่เก็บกักไว้ ซึ่งคาดว่าเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค และภาคการเกษตร จำเป็นต้องบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และต้องใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาภัยแล้ง
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ในขณะนี้ได้เตรียมจัดทำแผนเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2558 แต่งตั้งคณะทำงาน มอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบ พร้อมระดมสรรพกำลัง และอุปกรณ์เครื่องมือ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือปัญหาภัยแล้งที่คาดว่าจะส่งผลกระทบในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ ไว้แล้ว
นอกจากนี้ ได้มีการแจกจ่ายถังน้ำให้กับประชาชนเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภค 1,144 ใบ ปรับปรุงบ่อน้ำบาดาล และบ่อน้ำตื้น 1,209 บ่อ รวมทั้งประสานเตรียมขอเครื่องสูบน้ำเพิ่มจำนวน 30 เครื่อง ด้วย