ยูโรร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปีในวันนี้ โดยอ่อนค่าลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ครั้งใหม่ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเงินฝืดในยูโรโซน
ณ เวลา 18.20 น.ตามเวลาไทย ยูโรร่วงสู่ระดับ 1.1762 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2005 ใกล้เคียงกับระดับ 1.1747 ซึ่งเป็นระดับที่ยูโรเริ่มทำการซื้อขายในวันที่ 4 ม.ค.1999 ส่วนดอลลาร์ดีดตัวแตะ 119.80 เยน ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ 118.36
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนลดลงสู่ระดับ -0.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 0.3% ในเดือนพ.ย.
ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนที่แล้วถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2009 และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ CPI ยูโรโซนอยู่ในระดับติดลบ ส่งผลให้มีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจจะตัดสินใจขยายขอบเขตมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมที่กำลังจะมีขึ้น
นอกจากนี้ การดิ่งลงของคำสั่งซื้อภาคการผลิตของเยอรมนี และความวิตกเกี่ยวกับการเลือกตั้งในกรีซ ก็เป้นปัจจัยยกดดันค่าเงินยูโรด้วย
รัฐบาลเยอรมนีเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคการผลิตของเยอรมนีปรับตัวลดลงอย่างมากในเดือนพ.ย. โดยเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนก่อนหน้านี้
รายงานระบุว่า คำสั่งซื้อใหม่ในเดือนพ.ย.ร่วงลง 2.4% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงเพียง 0.8% โดยยอดสั่งซื้อภายในประเทศดิ่งลง 4.7% ในขณะที่ยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศปรับตัวลง 0.7%
นายอันโตนิส ซามาราส นายกรัฐมนตรีกรีซ เปิดเผยว่า การเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 25 ม.ค.นี้ ถือเป็นการชี้ชะตาว่ากรีซจะสามารถรักษาสถานภาพการเป็นสมาชิกยูโรโซนต่อไปได้หรือไม่ พร้อมกับเตือนว่า หากพรรคไซรีซา ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ก็อาจจะส่งผลให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ และอาจทำให้กรีซต้องพ้นจากการเป็นชาติสมาชิกของยูโรโซน เนื่องจากนายอเล็กซิส ซิปราส หัวหน้าพรรคไซรีซา มีแนวโน้มที่จะยุติมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ได้รับการสนับสนุนจากเยอรมนีเพื่อแลกกับการให้ความช่วยเหลือต่อกรีซ
ณ เวลา 18.20 น.ตามเวลาไทย ยูโรร่วงสู่ระดับ 1.1762 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2005 ใกล้เคียงกับระดับ 1.1747 ซึ่งเป็นระดับที่ยูโรเริ่มทำการซื้อขายในวันที่ 4 ม.ค.1999 ส่วนดอลลาร์ดีดตัวแตะ 119.80 เยน ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ 118.36
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนลดลงสู่ระดับ -0.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 0.3% ในเดือนพ.ย.
ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนที่แล้วถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2009 และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ CPI ยูโรโซนอยู่ในระดับติดลบ ส่งผลให้มีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจจะตัดสินใจขยายขอบเขตมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมที่กำลังจะมีขึ้น
นอกจากนี้ การดิ่งลงของคำสั่งซื้อภาคการผลิตของเยอรมนี และความวิตกเกี่ยวกับการเลือกตั้งในกรีซ ก็เป้นปัจจัยยกดดันค่าเงินยูโรด้วย
รัฐบาลเยอรมนีเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคการผลิตของเยอรมนีปรับตัวลดลงอย่างมากในเดือนพ.ย. โดยเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนก่อนหน้านี้
รายงานระบุว่า คำสั่งซื้อใหม่ในเดือนพ.ย.ร่วงลง 2.4% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงเพียง 0.8% โดยยอดสั่งซื้อภายในประเทศดิ่งลง 4.7% ในขณะที่ยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศปรับตัวลง 0.7%
นายอันโตนิส ซามาราส นายกรัฐมนตรีกรีซ เปิดเผยว่า การเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 25 ม.ค.นี้ ถือเป็นการชี้ชะตาว่ากรีซจะสามารถรักษาสถานภาพการเป็นสมาชิกยูโรโซนต่อไปได้หรือไม่ พร้อมกับเตือนว่า หากพรรคไซรีซา ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ก็อาจจะส่งผลให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ และอาจทำให้กรีซต้องพ้นจากการเป็นชาติสมาชิกของยูโรโซน เนื่องจากนายอเล็กซิส ซิปราส หัวหน้าพรรคไซรีซา มีแนวโน้มที่จะยุติมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ได้รับการสนับสนุนจากเยอรมนีเพื่อแลกกับการให้ความช่วยเหลือต่อกรีซ
