นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงคมนาคมเห็นชอบให้รถแท็กซี่ปรับค่าโดยสารและกำหนดให้แท็กซี่ต้องตรวจสอบมาตรฐานรถ นำรถเข้าจูนมิเตอร์และซีลตะกั่วที่มาตรค่าโดยสารจากกรมการขนส่งทางบก ว่า ขณะนี้มีรถแท็กซี่เข้ามาดำเนินการตรวจสภาพรถแล้วประมาณ 45,000 คัน แท็กซี่บางส่วนได้ผ่านขั้นตอนที่ 1 แล้ว แต่บางรายที่ยังไม่ผ่านต้องนำรถไปปรับปรุงแก้ไขแล้วนำกลับมาตรวจใหม่ภายใน 15 วัน คาดว่าในวันพรุ่งนี้จะมีแท็กซี่ที่ผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอนประมาณ 2,000-3,000 คัน ที่สามารถปรับค่าโดยสารได้ก่อนเป็นล็อตแรก จากแท็กซี่ที่จดทะเบียนในระบบประมาณ 85,000 คัน
ส่วนที่เหลือจะทยอยตรวจสอบปรับจูนมิตเตอร์จนครบ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งการตรวจสอบขณะนี้สามารถทำได้วันละ 3,000-4,000 คัน เนื่องจากมิตเตอร์ที่ใช้มาจาก 17 ยี่ห้อจาก 10 บริษัท ซึ่งต้องใช้เวลา
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (22 ธ.ค.) กรมขนส่งทางบกจะลงพื้นที่ตรวจสอบการปรับจูนมิสเตอร์รถแท็กซี่และซีลตะกั่วที่มาตรค่าโดยสารที่สนามบินดอนเมือง พร้อมจะติดสติกเกอร์ผ่านการตรวจยกระดับและปรับจูนมิสเตอร์เพื่อใช้มาตรการค่าโดยสารใหม่ระยะที่ 1
สำหรับอัตราแท็กซี่อัตราใหม่กำหนดให้ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรกยังคงไว้ที่ 35 บาท ระยะทางเกินกว่า 1-10 กิโลเมตรละ 5.50 บาท ระยะทางเกินกว่า 10-20 กิโลเมตรละ 7.50 บาท กิโลเมตรที่ 21-40 ราคา 6.50 บาท กิโลเมตรที่ 41-60 ราคา 7 บาท และกิโลเมตรที่ 61-80 ราคา 8 บาท และช่วงรถติดและจอดนิ่งเพิ่มจาก 1.50 บาท เป็น 2 บาท
ส่วนที่เหลือจะทยอยตรวจสอบปรับจูนมิตเตอร์จนครบ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งการตรวจสอบขณะนี้สามารถทำได้วันละ 3,000-4,000 คัน เนื่องจากมิตเตอร์ที่ใช้มาจาก 17 ยี่ห้อจาก 10 บริษัท ซึ่งต้องใช้เวลา
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (22 ธ.ค.) กรมขนส่งทางบกจะลงพื้นที่ตรวจสอบการปรับจูนมิสเตอร์รถแท็กซี่และซีลตะกั่วที่มาตรค่าโดยสารที่สนามบินดอนเมือง พร้อมจะติดสติกเกอร์ผ่านการตรวจยกระดับและปรับจูนมิสเตอร์เพื่อใช้มาตรการค่าโดยสารใหม่ระยะที่ 1
สำหรับอัตราแท็กซี่อัตราใหม่กำหนดให้ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรกยังคงไว้ที่ 35 บาท ระยะทางเกินกว่า 1-10 กิโลเมตรละ 5.50 บาท ระยะทางเกินกว่า 10-20 กิโลเมตรละ 7.50 บาท กิโลเมตรที่ 21-40 ราคา 6.50 บาท กิโลเมตรที่ 41-60 ราคา 7 บาท และกิโลเมตรที่ 61-80 ราคา 8 บาท และช่วงรถติดและจอดนิ่งเพิ่มจาก 1.50 บาท เป็น 2 บาท
