xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นสหรัฐฯพุ่ง หลังเฟดไม่กังวลต่อราคาน้ำมันที่ตกต่ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(18ธ.ค.) พุ่งทะยานเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน จากผลประชุมเฟดเมื่อวันพุธ(17ธ.ค.) ขณะที่นักลงทุนมองข้ามความกังวลเกี่ยวกับราคาพลังงานที่ดำดิ่ง

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 421.28 จุด (2.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,778.15 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 48.34 จุด (2.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,061.23 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 104.09 จุด (2.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,748.40 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้น 400 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2554 ส่งผลให้ดาวโจนส์บวกขึ้นไปแล้ว 700 จุดภายในระยะเวลา 2 วัน ขณะที่ดัชนี S&P ทำสถิติดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2555 เนื่องจากนักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของเฟดในการประชุมครั้งล่าสุดที่ว่า เฟดสามารถ "อดทน" รอต่อไปได้อีก ในการปรับท่าทีด้านนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับเพิ่มขึ้นคาดการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐว่าจะขยายตัวในอัตรา 2.3-2.4% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนก.ย.ที่ระดับ 2-2.2% และได้คงคาดการณ์เศรษฐกิจในปีหน้าไว้ที่ระดับ 2.6-3% ส่วนในด้านตลาดแรงงานนั้น เฟดคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5.8% ในปีนี้ และจะลดลงสู่ระดับ 5.2-5.3% ในปีหน้า

ตลาดหุ้นนิวยอร์กขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 13 ธ.ค. ปรับตัวลง 6,000 ราย แตะที่ 289,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ และเป็นสัญญาณล่าสุดว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยสะท้อนว่าการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง

ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ (LEI) สหรัฐปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ย. บ่งชี้ว่าสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ค่อนข้างแข็งแกร่งในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 3% ขณะที่หุ้นออราเคิล ทะยานขึ้น 10.2%
กำลังโหลดความคิดเห็น