นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังเดินทางเข้าพบนายปีติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงการติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า นายปีติพงษ์ได้มอบหมายให้นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาพูดคุยแทน โดยนายอำนวย ชี้แจงว่าได้รับทั้ง 5 มาตรการที่อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้กระทรวงต่างรับปฏิบัติแล้ว คือ 1.ไม่ขายยางเก่าในสต๊อกรัฐ 2.ให้นำยางนั้นเอามาทำและซ่อมถนน 3.นำยางมาทำสนามกีฬา 4.ทำวัสดุกันสะเทือนในระบบรางทั้งหมด 5.เร่งสนับสนุนอุตสาหกรรมแปรรูปยาง โดยเฉพาะเรื่องใช้น้ำยางทำถนน แต่ติดที่ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะมีบริษัทเดียวที่มีนำน้ำยางมาทำถนน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงไม่กล้าดำเนินการ แต่รับปากจะดำเนินการให้เสร็จใน 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ อบจ.สงขลา ได้ประกาศแล้วว่าจะใช้น้ำยางในการทำถนน ซึ่งคงไม่พอ อยากให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทรับไปปฏิบัติและขอให้ออกมาเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อจะมีผลปฏิบัติจริงไม่ใช่แค่การรับหลักการแล้วรอ เพราะไม่มีถนนสักสายที่ใช้น้ำยาหรือไม่มีแม้แต่โรงเรียนเดียวที่ทำลานกีฬาด้วยยางพารา จึงบอกไปว่าหากเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะแก้ไขปัญหาของประชาชนได้ดีกว่านี้ และน่าแปลกที่รัฐบาลที่มาจากอำนาจพิเศษ แต่กลับไม่กล้าใช้อำนาจพิเศษในการแก้ไขปัญหาปากท้อง ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ อบจ.สงขลา ได้ประกาศแล้วว่าจะใช้น้ำยางในการทำถนน ซึ่งคงไม่พอ อยากให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทรับไปปฏิบัติและขอให้ออกมาเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อจะมีผลปฏิบัติจริงไม่ใช่แค่การรับหลักการแล้วรอ เพราะไม่มีถนนสักสายที่ใช้น้ำยาหรือไม่มีแม้แต่โรงเรียนเดียวที่ทำลานกีฬาด้วยยางพารา จึงบอกไปว่าหากเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะแก้ไขปัญหาของประชาชนได้ดีกว่านี้ และน่าแปลกที่รัฐบาลที่มาจากอำนาจพิเศษ แต่กลับไม่กล้าใช้อำนาจพิเศษในการแก้ไขปัญหาปากท้อง ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
