นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในฐานะสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านการศึกษาและการพัฒนาทรัยากรมนุษย์ เปิดเผยว่า จากการประชุม สปช.ที่ผ่านมา คณะกรรมการทั้ง 18 ชุด ได้เสนอแนวคิดว่าควรบรรจุอะไรไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บ้าง โดยในส่วนของคณะกรรมาธิการการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สปช. ได้เสนอสาระที่จะบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย หน้าที่ของพลเมือง ว่าบุคคลต้องมีหน้าที่เข้ารับการศึกษา และมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ส่วนประเด็นสิทธิเสรีภาพในการศึกษาของบุคคล ก็จะมีสาระสำคัญคล้ายเดิม อาทิ บุคคลย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกันในการเข้าถึง และใช้ประโยชน์จากการศึกษาที่มีคุณภาพในรูปแบบที่หลากหลายมีเสรีภาพในทางวิชาการ
สำหรับแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐที่จะบรรจุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญในด้านการศึกษา ได้เสนอไว้ 7 เรื่อง อาทิ กำหนดให้การศึกษาเป็นนโยบายระดับชาติที่มีความสำคัญสูงสุด โดยต้องมีความเชื่อมโยงกับนโยบายการพัฒนาทุกด้านและสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของประเทศ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขมีความสามารถในการแข่งขัน และการธำรงรักษาเอกลักษณ์ของสังคมไทย การจัดการศึกษาต้องสร้างความเป็นธรรมขจัดความเหลื่อมล้ำให้โอกาสการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพแก่บุคคลอย่างเท่าเทียม โดยรัฐต้องจัดสรรค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่เพียงพอต่อการได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพ ตั้งแต่ปฐมวัยถึงการศึกษาภาคบังคับตามความแตกต่างของผู้เรียนและสถานศึกษา และนโยบายการศึกษาต้องมีความต่อเนื่องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และปราศจากการแทรกแซงใดๆจากกลุ่มผลประโยชน์
อย่างไรก็ตาม การดูแลการศึกษาในภาพรวม มีแนวโน้มสูงที่จะจัดตั้ง "ซูเปอร์บอร์ด" เพื่อกำกับดูแลนโยบายการศึกษาในภาพรวม โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เป็นคณะกรรมการ เพื่อให้นโยบายสอดคล้องกับการผลิตกำลังคนของประเทศ
ส่วนประเด็นสิทธิเสรีภาพในการศึกษาของบุคคล ก็จะมีสาระสำคัญคล้ายเดิม อาทิ บุคคลย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกันในการเข้าถึง และใช้ประโยชน์จากการศึกษาที่มีคุณภาพในรูปแบบที่หลากหลายมีเสรีภาพในทางวิชาการ
สำหรับแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐที่จะบรรจุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญในด้านการศึกษา ได้เสนอไว้ 7 เรื่อง อาทิ กำหนดให้การศึกษาเป็นนโยบายระดับชาติที่มีความสำคัญสูงสุด โดยต้องมีความเชื่อมโยงกับนโยบายการพัฒนาทุกด้านและสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของประเทศ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขมีความสามารถในการแข่งขัน และการธำรงรักษาเอกลักษณ์ของสังคมไทย การจัดการศึกษาต้องสร้างความเป็นธรรมขจัดความเหลื่อมล้ำให้โอกาสการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพแก่บุคคลอย่างเท่าเทียม โดยรัฐต้องจัดสรรค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่เพียงพอต่อการได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพ ตั้งแต่ปฐมวัยถึงการศึกษาภาคบังคับตามความแตกต่างของผู้เรียนและสถานศึกษา และนโยบายการศึกษาต้องมีความต่อเนื่องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และปราศจากการแทรกแซงใดๆจากกลุ่มผลประโยชน์
อย่างไรก็ตาม การดูแลการศึกษาในภาพรวม มีแนวโน้มสูงที่จะจัดตั้ง "ซูเปอร์บอร์ด" เพื่อกำกับดูแลนโยบายการศึกษาในภาพรวม โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เป็นคณะกรรมการ เพื่อให้นโยบายสอดคล้องกับการผลิตกำลังคนของประเทศ
