เจ้าหน้าที่ออสเตรเลีย ยืนยันมือปืนผู้ก่อเหตุควบคุมตัวพนักงานและลูกค้าร้านช็อกโกแลต 17 คนเป็นตัวประกันลงมือเพียงลำพัง ก่อนเจ้าตัวถูกวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิตไปพร้อมกับคนอื่นๆอีก 2 รายในปฏิบัติการจู่โจมคาเฟ่กลางเมืองซิดนีย์ของตำรวจในช่วงเช้ามืดวันอังคาร(16ธ.ค.) สิ้นสุดเหตุเผชิญหน้าที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ตอนเช้าวันจันทร์(15ธ.ค.)
เสียงปืนดังสนั่นและแสงจากระเบิดแสงส่องวาบเป็นพักๆ ระหว่างที่ตำรวจในชุดเสื้อเกราะแบบเดียวกับหน่วยสวาทบุกเข้าไปภายในร้านที่ตั้งอยู่ย่านดาวน์ทาวน์ของซิดนีย์ ไม่นานหลังพบเห็นตัวประกันจำนวนหนึ่งวิ่งหนีออกมา
แอนดรูว์ ชิปิโอเน อธิบดีตำรวจนิวเซาท์เวลส์ แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่าตำรวจบุุกเข้าไปภายในหลังจากมีการดวลปืนกัน โดยมือปืนวัย 50 ปีที่ก่อเหตุเพียงคนเดียวถูกยิงเสียชีวิต ขณะที่ตัวประกันชายวัย 34 ปีและผู้หญิงวัย 38 ปี สิ้นลมหายใจหลังจากถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล "มันเป็นการลงมือของคนๆเดียว แต่มันจะไม่มีทางทำลายหรือเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของพวกเรา"
คริส รีสัน ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์แชนเนล เซเว่น ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามคาเฟ่ที่เกิดเหตุ เผยว่ามีโทรศัทพ์มาจากหน่วยตำรวจสื่อสารชี้แจงสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตัดสินใจบุกเข้าไปยังอาคารโดยปราศจากการแจ้งเตือนใดๆ เพราะมีตัวประกันเสียชีวิต ทั้งหลังจากตำรวจประกาศว่าการจับตัวประกันสิ้นสุดแล้ว ก็ได้มีการส่งหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าไปภายใน แต่ก็ไม่พบวัตถุต้องสงสัยแต่อย่างใด
โรงพยาบาลรอยัลนอร์ทชอร์ เผยว่านายตำรวจวัย 39 ปี เป็นแผลจากกระสุนถากบริเวณแก้ม ส่วนตัวประกันหญิงคนหนึ่งอายุราวๆ 40 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่อาการทรงตัว หลังถูกยิงที่ขาและผู้หญิงอีกคนมีอาการปวดหลัง
สถานีโทรทัศน์เอบีซีและสื่ออื่นๆรายงานว่ามือระเบิดนายมัน ฮารอน โมนิส เคยเจอข้อหาประทุษร้ายทางเพศมาหลายคดี นอกจากนี้ยังเคยถูกพิพากษาว่ามีความผิดในปี 2012 ฐานส่งจดหมายรุกรานและข่มขู่ครอบครัวนายทหารออสเตรเลีย 8 นายที่เสียชีวิตในอัฟกานิสถาน เพื่อประท้วงออสเตรเลียที่เข้าไปพัวพันในความขัดแย้งของดินแดนดังกล่าว
เสียงปืนดังสนั่นและแสงจากระเบิดแสงส่องวาบเป็นพักๆ ระหว่างที่ตำรวจในชุดเสื้อเกราะแบบเดียวกับหน่วยสวาทบุกเข้าไปภายในร้านที่ตั้งอยู่ย่านดาวน์ทาวน์ของซิดนีย์ ไม่นานหลังพบเห็นตัวประกันจำนวนหนึ่งวิ่งหนีออกมา
แอนดรูว์ ชิปิโอเน อธิบดีตำรวจนิวเซาท์เวลส์ แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่าตำรวจบุุกเข้าไปภายในหลังจากมีการดวลปืนกัน โดยมือปืนวัย 50 ปีที่ก่อเหตุเพียงคนเดียวถูกยิงเสียชีวิต ขณะที่ตัวประกันชายวัย 34 ปีและผู้หญิงวัย 38 ปี สิ้นลมหายใจหลังจากถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล "มันเป็นการลงมือของคนๆเดียว แต่มันจะไม่มีทางทำลายหรือเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของพวกเรา"
คริส รีสัน ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์แชนเนล เซเว่น ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามคาเฟ่ที่เกิดเหตุ เผยว่ามีโทรศัทพ์มาจากหน่วยตำรวจสื่อสารชี้แจงสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตัดสินใจบุกเข้าไปยังอาคารโดยปราศจากการแจ้งเตือนใดๆ เพราะมีตัวประกันเสียชีวิต ทั้งหลังจากตำรวจประกาศว่าการจับตัวประกันสิ้นสุดแล้ว ก็ได้มีการส่งหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าไปภายใน แต่ก็ไม่พบวัตถุต้องสงสัยแต่อย่างใด
โรงพยาบาลรอยัลนอร์ทชอร์ เผยว่านายตำรวจวัย 39 ปี เป็นแผลจากกระสุนถากบริเวณแก้ม ส่วนตัวประกันหญิงคนหนึ่งอายุราวๆ 40 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่อาการทรงตัว หลังถูกยิงที่ขาและผู้หญิงอีกคนมีอาการปวดหลัง
สถานีโทรทัศน์เอบีซีและสื่ออื่นๆรายงานว่ามือระเบิดนายมัน ฮารอน โมนิส เคยเจอข้อหาประทุษร้ายทางเพศมาหลายคดี นอกจากนี้ยังเคยถูกพิพากษาว่ามีความผิดในปี 2012 ฐานส่งจดหมายรุกรานและข่มขู่ครอบครัวนายทหารออสเตรเลีย 8 นายที่เสียชีวิตในอัฟกานิสถาน เพื่อประท้วงออสเตรเลียที่เข้าไปพัวพันในความขัดแย้งของดินแดนดังกล่าว