นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า หลังจากกระทรวงคมนาคมอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารรถแท็กซี่ใหม่อีกร้อยละ 8 และอีก 6 เดือนช่วงที่ 2 จะปรับอัตราค่าโดยสารอีกร้อยละ 5 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา ขณะนี้กรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างให้รถแท็กซี่ทุกคันที่อยู่ในระบบกว่า 1 แสนคัน ต้องนำรถมาตรวจตรวจสอบสภาพรถก่อนที่กรมการขนส่งทางบกทุกพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลใน 7 พื้นที่ โดยมีรถแท็กซี่ผ่านการตรวจแล้วกว่า 36,000 คัน ซึ่งเน้นจะตรวจดูสภาพความพร้อมของเครื่องปรับอากาศ ยางรถยนต์ เข็มขัดนิรภัย ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ประตู เบาะที่นั่งทั้งข้างหน้าและข้างหลัง โดยใช้เวลาต่อคัน 5-10 นาที หลังจากนั้น ทางกรมฯ จะออกใบรับรองการตรวจสภาพรถก่อนนำรถไปปรับจูนมิเตอร์ค่าโดยสารใหม่ คาดว่าจะเริ่มปรับจูนได้ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคมนี้ เป็นต้นไป ซึ่งเป็นขั้นตอนต่อไปเพื่อให้มีความพร้อมก่อนให้การบริการแก่ประชาชนในอัตราใหม่ต่อไป
ทั้งนี้ เท่าที่ได้รับรายงานนำรถมาตรวจภาพขั้นตอนแรกรถแท็กซี่ส่วนบุลคลส่วนใหม่ผ่านการตรวจสอบได้รวดเร็ว แต่มีรถแท็กซี่บางส่วนไม่ผ่านการตรวจ จากสาเหตุอุปกรณ์ชำรุด จึงให้กลับไปแก้ไขมาใหม่ ก่อนออกใบรับรองรถเพื่อนำรถไปปรับจูนมิเตอร์ได้ต่อไป และกรมฯ จะให้บริษัทผู้ผลิตมิเตอร์นำมิเตอร์ต้นแบบอัตราค่าโดยสารใหม่ให้กับรถแท็กซี่ที่ผ่านการตรวจสภาพตามขั้นตอนต่างๆ จากกรมฯ มาแล้ว ให้สามารถใช้อัตราค่าบริการใหม่ได้ คาดว่าปลายเดือนธันวาคมนี้จะเริ่มเห็นแท็กซี่เก็บค่าโดยสารอัตราใหม่ ซึ่งประชาชนผู้ใช้บริการสังเกตรถแท็กซี่ที่ผ่านขั้นตอนต่างๆ จะมีสติ๊กเกอร์ของกรมฯ ติดไว้ชัดเจน
ขณะเดียวกัน รถแท็กซี่ที่ยังไม่ปรับจูนและอยู่ในขั้นตอนแก้ไข จะต้องเก็บค่าโดยสารอัตราเดิมไปก่อน จะเรียกเก็บอัตราใหม่ไม่ได้ หากประชาชนพบเห็นแท็กซี่เรียกเก็บอัตราใหม่ที่ยังไม่ผ่านการตรวจจากกรมฯ ร้องสายด่วน 1584 ได้ทันที
สำหรับอัตราการคิดค่าโดยสารใหม่ ระยะทางเริ่มต้น 1 กิโลเมตรแรก ราคา 35 บาท ระยะทาง 1-10 กิโลเมตร กิโลเมตรละ 5.5 บาท ระยะทาง 10-20 กิโลเมตร กิโลเมตรละ 6.50 บาท ส่วนค่าโดยสารใหม่ จากเดิม 5 กิโลเมตรแรก ราคา 55 บาท เพิ่มเป็น 57 บาท กิโลเมตรที่ 10 ค่าโดยสารเดิม 81 บาท เพิ่มเป็น 85 บาทเป็นต้น
ทั้งนี้ เท่าที่ได้รับรายงานนำรถมาตรวจภาพขั้นตอนแรกรถแท็กซี่ส่วนบุลคลส่วนใหม่ผ่านการตรวจสอบได้รวดเร็ว แต่มีรถแท็กซี่บางส่วนไม่ผ่านการตรวจ จากสาเหตุอุปกรณ์ชำรุด จึงให้กลับไปแก้ไขมาใหม่ ก่อนออกใบรับรองรถเพื่อนำรถไปปรับจูนมิเตอร์ได้ต่อไป และกรมฯ จะให้บริษัทผู้ผลิตมิเตอร์นำมิเตอร์ต้นแบบอัตราค่าโดยสารใหม่ให้กับรถแท็กซี่ที่ผ่านการตรวจสภาพตามขั้นตอนต่างๆ จากกรมฯ มาแล้ว ให้สามารถใช้อัตราค่าบริการใหม่ได้ คาดว่าปลายเดือนธันวาคมนี้จะเริ่มเห็นแท็กซี่เก็บค่าโดยสารอัตราใหม่ ซึ่งประชาชนผู้ใช้บริการสังเกตรถแท็กซี่ที่ผ่านขั้นตอนต่างๆ จะมีสติ๊กเกอร์ของกรมฯ ติดไว้ชัดเจน
ขณะเดียวกัน รถแท็กซี่ที่ยังไม่ปรับจูนและอยู่ในขั้นตอนแก้ไข จะต้องเก็บค่าโดยสารอัตราเดิมไปก่อน จะเรียกเก็บอัตราใหม่ไม่ได้ หากประชาชนพบเห็นแท็กซี่เรียกเก็บอัตราใหม่ที่ยังไม่ผ่านการตรวจจากกรมฯ ร้องสายด่วน 1584 ได้ทันที
สำหรับอัตราการคิดค่าโดยสารใหม่ ระยะทางเริ่มต้น 1 กิโลเมตรแรก ราคา 35 บาท ระยะทาง 1-10 กิโลเมตร กิโลเมตรละ 5.5 บาท ระยะทาง 10-20 กิโลเมตร กิโลเมตรละ 6.50 บาท ส่วนค่าโดยสารใหม่ จากเดิม 5 กิโลเมตรแรก ราคา 55 บาท เพิ่มเป็น 57 บาท กิโลเมตรที่ 10 ค่าโดยสารเดิม 81 บาท เพิ่มเป็น 85 บาทเป็นต้น
