เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม. เป็นประธานเปิดงาน “20 ของขวัญ พม. มอบสู่ประชาชน” เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ภายในงาน มีการเปิดตัวของขวัญชิ้นที่ 1 ศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC สายด่วน 1300 โฉมใหม่ โดย น.ส.แรมรุ้ง สุบรรณเสนีย์ ผอ.ศูนย์ช่วยเหลือสังคม กล่าวว่า ศูนย์ช่วยเหลือสังคมโฉมใหม่ มีการเพิ่มจำนวนคู่สายจาก 15 คู่สาย เป็น 30 คู่สาย โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆอาทิ ศูนย์เอราวัณ ปอเต็กตึ้ง จัดส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วในการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ โดยฝึกอบรมด้านภาษามือ เพิ่มรองรับผู้ที่มีปัญหาทางการได้ยิน รวมถึงมีการจัดล่ามภาษา อาทิ เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา อีกด้วย
นายมานะ เกลี้ยงทอง ผอ.สำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) กล่าวว่า ทาง สธค.มีโครงการลดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำ คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ คือเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 บาท เงินต้น 5,001-10,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 บาท เงินต้น 10,001-20,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาท และเงินต้น 20,001-100,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 1.25บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 57 - 31 มี.ค. 58 ส่วนโครงการประมูลทรัพย์หลุดจำนำสัญจร จะเปิดประมูลทุกวันศุกร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 57 – 30 ม.ค. 58 วันที่ 18 ธ.ค. 57 ที่สาขา 23 ปากเกร็ด วันที่ 26 ธ.ค. 57 ที่สาขา 28 จ.ระยอง วันที่ 9 ม.ค. 58 ที่สาขา 8 รามคำแหง วันที่ 16 ม.ค. 58 ที่สาขาที่ 18 ห้วยขวาง วันที่ 23 ม.ค. 58 ที่สาขา 21 ดอนเมือง และวันที่ 30 ม.ค.58 ที่สาขา 31 สายไหม สำหรับสินค้าที่เปิดประมูลมีมูลค่าตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนสินค้าประมูลที่มีมูลค่ามากที่สุดคือ ทอง และเพชร ทั้งนี้สินทรัพย์ที่นำมาจัดประมูล รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
ด้านนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กล่าวว่า สำหรับโครงการมอบสิทธิที่ดินทำกินให้กับประชาชนในพื้นที่นิคมสร้างตนเองใน 5 ภูมิภาคนั้น จะมีการจัดมอบเอกสารสิทธิ น.ค.3 ให้กับประชาชนที่เป็นสมาชิกนิคมไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยผ่านการพิจารณาจากผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ และอธิบดี พส. จำนวน 5,000 ราย ใน 43 นิคม 36 จังหวัด พื้นที่ 17,000 ไร่ ซึ่งประชาชนสามารถนำเอกสารสิทธิน.ค.3 ไปเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดินได้ที่กรมที่ดิน ภายหลังถือครองครบ5 ปี อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวฯ ไม่ได้เป็นเพียงการจัดสรรที่ดินให้กับประชาชนที่ยากจนเพียงอย่างเดียว แต่มุ่งเน้นการจัดสรรสาธารณูปโภค ส่งเสริมอาชีพ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอีกด้วย
นายมานะ เกลี้ยงทอง ผอ.สำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) กล่าวว่า ทาง สธค.มีโครงการลดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำ คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ คือเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 บาท เงินต้น 5,001-10,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 บาท เงินต้น 10,001-20,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาท และเงินต้น 20,001-100,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 1.25บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 57 - 31 มี.ค. 58 ส่วนโครงการประมูลทรัพย์หลุดจำนำสัญจร จะเปิดประมูลทุกวันศุกร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 57 – 30 ม.ค. 58 วันที่ 18 ธ.ค. 57 ที่สาขา 23 ปากเกร็ด วันที่ 26 ธ.ค. 57 ที่สาขา 28 จ.ระยอง วันที่ 9 ม.ค. 58 ที่สาขา 8 รามคำแหง วันที่ 16 ม.ค. 58 ที่สาขาที่ 18 ห้วยขวาง วันที่ 23 ม.ค. 58 ที่สาขา 21 ดอนเมือง และวันที่ 30 ม.ค.58 ที่สาขา 31 สายไหม สำหรับสินค้าที่เปิดประมูลมีมูลค่าตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนสินค้าประมูลที่มีมูลค่ามากที่สุดคือ ทอง และเพชร ทั้งนี้สินทรัพย์ที่นำมาจัดประมูล รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
ด้านนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กล่าวว่า สำหรับโครงการมอบสิทธิที่ดินทำกินให้กับประชาชนในพื้นที่นิคมสร้างตนเองใน 5 ภูมิภาคนั้น จะมีการจัดมอบเอกสารสิทธิ น.ค.3 ให้กับประชาชนที่เป็นสมาชิกนิคมไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยผ่านการพิจารณาจากผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ และอธิบดี พส. จำนวน 5,000 ราย ใน 43 นิคม 36 จังหวัด พื้นที่ 17,000 ไร่ ซึ่งประชาชนสามารถนำเอกสารสิทธิน.ค.3 ไปเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดินได้ที่กรมที่ดิน ภายหลังถือครองครบ5 ปี อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวฯ ไม่ได้เป็นเพียงการจัดสรรที่ดินให้กับประชาชนที่ยากจนเพียงอย่างเดียว แต่มุ่งเน้นการจัดสรรสาธารณูปโภค ส่งเสริมอาชีพ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอีกด้วย
