นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุไฟไหม้ร้านรับซื้อของเก่า ของ บริษัท โกเฮงพัฒนารีไซเคิล ซอยพัฒนา 3 ต.หนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ในพื้นที่ประมาณ 30 ไร่ ว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อม ภาค 13 ของกรมควบคุมมลพิษ จ.ชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจวัดสารมลพิษทางอากาศที่เกิดจากการระเบิดของสารเคมีในโรงงานดังกล่าวแล้ว
เบื้องต้น โรงงานร้านของเก่าได้รับการผลิตเชื้อเพลิงเก่าจากน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้ว และมีการใช้ตัวทำละลาย หรือสารโซเวนส์ ที่ใช้ในกระบวนการทำน้ำมันในโรงงานด้วย ทำให้ต้องเฝ้าระวังผลกระทบจากสารเคมีบางชนิดที่อาจมีผลกระทบต่อร่างกาย เช่น กลุ่มสารอินทรีย์ระเหยง่าย (วีโอซี) ที่มาจากกระบวนการเผาไหม้ โดยเฉพาะสารเบนซีน โทลูอีน และเอธิลเบนซีน ไวนิลคลอไรด์ ฟอร์มัลดีไฮด์ ซึ่งต้องติดตามค่ามลพิษทางอากาศอย่างต่อเนื่องและต้องเก็บตัวอย่างสารเคมีในพื้นที่เกิดเหตุมาส่งตรวจในห้องปฏิบัติการที่ส่วนกลาง
ทั้งนี้ มีรายงานว่า จากการตรวจอากาศกลุ่มสารมลพิษทางอากาศเกิดจากการเผาไหม้ เช่น ก๊าซไฮโดรเจนออกไซด์ ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์ และฟอสจีน แต่ยังไม่พบเกินกว่าค่ามาตรฐานปกติ ยกเว้นก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เกินค่ามาตรฐานในส่วนท้ายลมของโรงงานร้อยละ 1 แต่ไม่สูงจนมีผลต่อสุขภาพ ขณะนี้สถานการณ์เริ่มเบาบางลงแล้ว เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้บางส่วนอยู่ในวงจำกัดแล้ว และสารเคมีที่ถูกเผาไหม้จากโรงงานดังกล่าวไม่อันตรายต่อร่างกาย จึงไม่จำเป็นต้องสั่งอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่
อธิบดีกรมควบคุมพิษ กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงหากกลุ่มสารเคมีในส่วนของตัวทำละลาย เนื่องจากสารเคมีหลายชนิดอาจเป็นตัวทำละลายที่ไม่สามารถใช้น้ำดับเพลิงได้ อาจส่งผลให้เกิดการตกค้างสารเคมีปนเปื้อนในน้ำ และพื้นที่บริเวณโดยรอบได้
เบื้องต้น โรงงานร้านของเก่าได้รับการผลิตเชื้อเพลิงเก่าจากน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้ว และมีการใช้ตัวทำละลาย หรือสารโซเวนส์ ที่ใช้ในกระบวนการทำน้ำมันในโรงงานด้วย ทำให้ต้องเฝ้าระวังผลกระทบจากสารเคมีบางชนิดที่อาจมีผลกระทบต่อร่างกาย เช่น กลุ่มสารอินทรีย์ระเหยง่าย (วีโอซี) ที่มาจากกระบวนการเผาไหม้ โดยเฉพาะสารเบนซีน โทลูอีน และเอธิลเบนซีน ไวนิลคลอไรด์ ฟอร์มัลดีไฮด์ ซึ่งต้องติดตามค่ามลพิษทางอากาศอย่างต่อเนื่องและต้องเก็บตัวอย่างสารเคมีในพื้นที่เกิดเหตุมาส่งตรวจในห้องปฏิบัติการที่ส่วนกลาง
ทั้งนี้ มีรายงานว่า จากการตรวจอากาศกลุ่มสารมลพิษทางอากาศเกิดจากการเผาไหม้ เช่น ก๊าซไฮโดรเจนออกไซด์ ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์ และฟอสจีน แต่ยังไม่พบเกินกว่าค่ามาตรฐานปกติ ยกเว้นก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เกินค่ามาตรฐานในส่วนท้ายลมของโรงงานร้อยละ 1 แต่ไม่สูงจนมีผลต่อสุขภาพ ขณะนี้สถานการณ์เริ่มเบาบางลงแล้ว เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้บางส่วนอยู่ในวงจำกัดแล้ว และสารเคมีที่ถูกเผาไหม้จากโรงงานดังกล่าวไม่อันตรายต่อร่างกาย จึงไม่จำเป็นต้องสั่งอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่
อธิบดีกรมควบคุมพิษ กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงหากกลุ่มสารเคมีในส่วนของตัวทำละลาย เนื่องจากสารเคมีหลายชนิดอาจเป็นตัวทำละลายที่ไม่สามารถใช้น้ำดับเพลิงได้ อาจส่งผลให้เกิดการตกค้างสารเคมีปนเปื้อนในน้ำ และพื้นที่บริเวณโดยรอบได้