จีน-ออสเตรเลีย ลงนามบันทึกความเข้าใจข้อตกลงเขตการค้าเสรีฉบับประวัติศาสตร์ในวันจันทร์ (17 พ.ย.) หลังเจรจากันมากว่าทศวรรษ พร้อมกันนี้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำแดนมังกรยังประกาศว่า ปักกิ่งพร้อมกระชับความร่วมมือกับแคนเบอร์รามากขึ้น รวมทั้งยินดีแก้ไขข้อพิพาทด้านดินแดนและผลประโยชน์ทางทะเลกับประเทศเพื่อนบ้านผ่านกลไกการทูต
นายกรัฐมนตรีโทนี แอ็บบอตต์ แห่งออสเตรเลีย และประธานาธิบดีสี ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ ระหว่างรัฐมนตรีพาณิชย์ของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งจัดขึ้นที่อาคารรัฐสภากรุงแคนเบอร์รา
ออสเตรเลียนั้น มีความพยายามลดการพึ่งพิงการส่งออกแร่ธาตุ เช่น ถ่านหินและแร่เหล็ก ที่ราคาอยู่ในช่วงขาลง และหันมาเน้นการส่งออกอาหารและสินค้าเกษตร เพื่อตอบสนองความต้องการของชนชั้นกลางที่กำลังขยายตัวในเอเชียแทน
ปัจจุบัน จีนถือเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันอยู่ในระดับปีละ 150,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 131,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
แอ็บบอตต์ระบุว่า นี่เป็นข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ฉบับแรกที่จีนบรรลุกับประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ และเป็นข้อตกลงที่ครอบคลุมที่สุดเท่าที่แดนมังกรเคยทำมา
“เป็นการเดินทางที่ต้องใช้เวลากว่าสิบปี แต่ในที่สุดเราก็ทำได้ และทั้งสองประเทศจะได้รับผลประโยชน์มากมายในอีกหลายปีต่อไป” ผู้นำออสเตรเลียประกาศ
บาร์นาบี จอยซ์ รัฐมนตรีเกษตรออสเตรเลีย ขานรับว่า ข้อตกลงนี้จะส่งเสริมการส่งออกของภาคเกษตรกรรม และช่วยต้านทานแนวโน้มขาลงของอุตสาหกรรมเหมืองแร่และภาวะราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำ ที่กำลังส่งผลกระทบแรงต่อเศรษฐกิจของแดนจิงโจ้
ขณะที่ พอล แกลสสัน รองประธานสภาธุรกิจออสเตรเลีย-จีน กล่าวแสดงความยินดีกับการเปิดตลาดจีนรับอุตสาหกรรมบริการแดนจิงโจ้ถึง 40 แขนง เป็นต้นว่า สุขภาพ กฎหมาย การเงิน การศึกษา โทรคมนาคม การดูแลผู้สูงวัย รวมถึงการเปิดตลาดให้สินค้าเกษตรอย่างผลิตภัณฑ์จากนม ข้าว ข้าวสาลี ไวน์ เนื้อวัว และการขนส่งสัตว์มีชีวิต
นายกรัฐมนตรีโทนี แอ็บบอตต์ แห่งออสเตรเลีย และประธานาธิบดีสี ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ ระหว่างรัฐมนตรีพาณิชย์ของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งจัดขึ้นที่อาคารรัฐสภากรุงแคนเบอร์รา
ออสเตรเลียนั้น มีความพยายามลดการพึ่งพิงการส่งออกแร่ธาตุ เช่น ถ่านหินและแร่เหล็ก ที่ราคาอยู่ในช่วงขาลง และหันมาเน้นการส่งออกอาหารและสินค้าเกษตร เพื่อตอบสนองความต้องการของชนชั้นกลางที่กำลังขยายตัวในเอเชียแทน
ปัจจุบัน จีนถือเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันอยู่ในระดับปีละ 150,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 131,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
แอ็บบอตต์ระบุว่า นี่เป็นข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ฉบับแรกที่จีนบรรลุกับประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ และเป็นข้อตกลงที่ครอบคลุมที่สุดเท่าที่แดนมังกรเคยทำมา
“เป็นการเดินทางที่ต้องใช้เวลากว่าสิบปี แต่ในที่สุดเราก็ทำได้ และทั้งสองประเทศจะได้รับผลประโยชน์มากมายในอีกหลายปีต่อไป” ผู้นำออสเตรเลียประกาศ
บาร์นาบี จอยซ์ รัฐมนตรีเกษตรออสเตรเลีย ขานรับว่า ข้อตกลงนี้จะส่งเสริมการส่งออกของภาคเกษตรกรรม และช่วยต้านทานแนวโน้มขาลงของอุตสาหกรรมเหมืองแร่และภาวะราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำ ที่กำลังส่งผลกระทบแรงต่อเศรษฐกิจของแดนจิงโจ้
ขณะที่ พอล แกลสสัน รองประธานสภาธุรกิจออสเตรเลีย-จีน กล่าวแสดงความยินดีกับการเปิดตลาดจีนรับอุตสาหกรรมบริการแดนจิงโจ้ถึง 40 แขนง เป็นต้นว่า สุขภาพ กฎหมาย การเงิน การศึกษา โทรคมนาคม การดูแลผู้สูงวัย รวมถึงการเปิดตลาดให้สินค้าเกษตรอย่างผลิตภัณฑ์จากนม ข้าว ข้าวสาลี ไวน์ เนื้อวัว และการขนส่งสัตว์มีชีวิต