พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการขอตัวอดีตพระเณรคำเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเป็นคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า ได้รับรายงานจากดีเอสไอว่า อยู่ในขั้นตอนการประสานขอตัวอดีตพระเณรคำ ซึ่งมีขั้นตอนดำเนินการระหว่างประเทศ กรณีอดีตพระเณรคำเป็นคดีที่ค้างเก่า และมีเงื่อนไขอุปสรรคในการขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน โดนตนได้กำชับอธิบดีดีเอสไอให้ชี้แจงต่อสังคมว่า ดีเอสไอได้ดำเนินการไปอย่างไรแล้วบ้าง และขั้นตอนหยุดอยู่ที่ใด
ด้านนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า คดีอดีตพระเณรคำ พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้สรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการไปแล้ว 5 ข้อหา แต่อัยการมีคำสั่งฟ้องไปบางส่วน ยังไม่ครบทุกข้อหา จึงอยู่ในขั้นตอนที่ต้องรอการดำเนินการของอัยการจนทั้ง 5 ข้อหา จึงจะเริ่มต้นกระบวนการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีการประสานในลักษณะขอความร่วมมือแล้ว แต่ติดขัดด้วยประเด็นข้อกฎหมายต่างๆ
ขณะที่ พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีอดีตพระเณรคำ กล่าวว่า ดีเอสไอสรุปสำนวนส่งฟ้องไป 5 ข้อหา ได้แก่ 1.พรากผู้เยาว์ 2.กระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี 3.ฉ้อโกงประชาชน 4.ฟอกเงิน และ 5.ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยอัยการสั่งฟ้องในข้อหาพรากผู้เยาว์ และกระทำชำเราเด็กหญิงแล้ว ส่วนข้อหาที่ 3-5 อัยการยังไม่มีความเห็นออกมาว่า เห็นสมควรสั่งฟ้องหรือไม่ จึงยังไม่เข้าสู่กระบวนการประสานขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน ที่ผ่านมาดีเอสไอได้ประสานกับประเทศปลายทางไว้หลายประเทศ เพื่อขอให้จับกุมส่งตัวอดีตพระเณรคำให้ไทย
ทั้งนี้ทางการไทยได้เพิกถอนหนังสือเดินทางอดีตพระเณรคำแล้ว แต่เรื่องวีซ่าเข้าประเทศ และการพักอาศัยอยู่ในประเทศ เป็นดุลพินิจของแต่ละประเทศ
ด้านนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า คดีอดีตพระเณรคำ พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้สรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการไปแล้ว 5 ข้อหา แต่อัยการมีคำสั่งฟ้องไปบางส่วน ยังไม่ครบทุกข้อหา จึงอยู่ในขั้นตอนที่ต้องรอการดำเนินการของอัยการจนทั้ง 5 ข้อหา จึงจะเริ่มต้นกระบวนการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีการประสานในลักษณะขอความร่วมมือแล้ว แต่ติดขัดด้วยประเด็นข้อกฎหมายต่างๆ
ขณะที่ พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีอดีตพระเณรคำ กล่าวว่า ดีเอสไอสรุปสำนวนส่งฟ้องไป 5 ข้อหา ได้แก่ 1.พรากผู้เยาว์ 2.กระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี 3.ฉ้อโกงประชาชน 4.ฟอกเงิน และ 5.ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยอัยการสั่งฟ้องในข้อหาพรากผู้เยาว์ และกระทำชำเราเด็กหญิงแล้ว ส่วนข้อหาที่ 3-5 อัยการยังไม่มีความเห็นออกมาว่า เห็นสมควรสั่งฟ้องหรือไม่ จึงยังไม่เข้าสู่กระบวนการประสานขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน ที่ผ่านมาดีเอสไอได้ประสานกับประเทศปลายทางไว้หลายประเทศ เพื่อขอให้จับกุมส่งตัวอดีตพระเณรคำให้ไทย
ทั้งนี้ทางการไทยได้เพิกถอนหนังสือเดินทางอดีตพระเณรคำแล้ว แต่เรื่องวีซ่าเข้าประเทศ และการพักอาศัยอยู่ในประเทศ เป็นดุลพินิจของแต่ละประเทศ