จากกรณีข่าวอื้อฉาวของอดีตพระวิรพล สุขผล หรือ หลวงปู่เณรคำ อดีตประธานสำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เมื่อปี 2556 มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งการครอบครองทรัพย์สินต่าง ๆ จำนวนมหาศาล อาทิ ที่ดิน รถยนต์หรู เงินสด เครื่องเพชร รวมถึงของใช้ส่วนตัวที่ล้วนแต่เป็นสินค้าแบรนด์เนมทั้งสิ้น โดยมีพุทธศาสนิกชนได้เข้าร้องเรียนกับตำรวจ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จนมีการรวบรวมพยานหลักฐานในคดีและขอศาลออกหมายจับแล้ว 8 ข้อหาด้วยกัน แต่นายวิรพลได้หลบหนีออกไปต่างประเทศก่อนหน้านั้น ภายหลังคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษได้ขับออกจากสมณเพศ และล่าสุดช่วงปลายปี 2556 นายวิรพลยังเก็บตัวในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงหลังวันออกพรรษาเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา พุทธศาสนิกชนในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะที่เมืองเลคเอลซินอร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ในงานกฐินของวัดขันติธรรม วันที่ 12 ต.ค.57 ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเจ้าของโฉนดที่ดินคือ นายวิรพล อยู่นั้น (บ้านเลขที่32140 Ortega Hwy.Lake Elsinore CA 92530) ปรากฏร่างของนายวิรพลในชุดห่มจีวรมารับกฐินราว 2.5 แสนบาท หรือราว 7-8 พันดอลล่าร์สหรัฐฯ จากลูกศิษย์คนไทยและต่างชาติจำนวนหนึ่ง มีพระครูภาวนาวรธรรมวิเทศ หรือ พระครูปานขาววัดโพธิญาณ เมืองตวกโหน่งประเทศฝรั่งเศส เป็นประธานในพิธี
สำหรับการออกสู่สาธารณชนในครั้งนี้นายวิรพลได้ระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก มีลูกศิษย์คนสนิทคอยดูแลความปลอดภัย และตรวจสอบบุคคลที่เข้ามาในพิธีอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ข้อมูลจากแหล่งข่าวสำคัญระบุว่า นายวิรพลยังพักอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งคาดเป็นบ้านลูกศิษย์ที่ตั้งอยู่ใกล้กับวัดขันติธรรม เพื่อหลบซ่อนและหนีการติดตามตัวจากเจ้าหน้าที่ไทยรวมทั้งยังปล่อยข่าวลือว่า ได้ละจากสมณเพศแล้วรวมถึงเดินทางออกจากสหรัฐฯ ไปยังฝรั่งเศส หรือ ลาว เตรียมเข้าไทยเพื่อมอบตัวต่อสู้คดี แต่ทุกอย่างเป็นเพียงข่าวลือที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ไทยรวมถึงคนไทยไขว้เขวเท่านั้นเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา นายวิรพลได้เก็บตัวเงียบและพยายามปล่อยข่าวว่า ได้ลาสิกขาแล้วแต่ในความเป็นจริงยังครองสมณเพศ เป็นพระภิกษุเหมือนเดิม แต่ไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือยเหมือนในอดีตแล้ว แต่ล่าสุดมีคนพบว่านายวิรพลได้ไปสอบใบขับขี่ของรัฐเพื่อนำไปใช้งานเนื่องจากได้นำรถยนต์มาขับไปไหนมาไหนตามปกติ โดยที่พยานสามารถจดจำได้ครั้งหนึ่งคือ นายวิรพล ได้ขับรถออกวนเวียนไปในเขตเมืองซานดิเอโก้ และเมืองข้างเคียงมีเมืองเลค เอลซินอร์ เมืองชิโน่ฮิลส์ เมืองวิลโดม่าร์ และเมืองเอสคอนดิโด้ ซึ่งแต่ละครั้งนายวิรพลจะมีคนติดตามไปด้วยราว 4-5 คน แต่ไม่ได้เข้าจำวัดใดวันหนึ่งอย่างเป็นทางการเพียงแต่เข้าไปทำภารกิจเป็นครั้งคราวเท่านั้น
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลด้านต่าง ๆ ของอดีตหลวงปู่เณรคำพบว่า ในกลุ่มผู้ใช้โซเซียลมีเดียและเว็บไซต์ชื่อดังอย่างอะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะดอทคอม หรือ เฟซบุ๊ค CSILA เป็นต้น โดยรายงานความเคลื่อนไหวของนายวิรพล หรือ อดีตหลวงปู่เณรคำถึงการใช้ชีวิตในสหรัฐฯ รวมถึงความเคลื่อนไหวต่าง ๆ โดยต่างมีการตั้งข้อสงสัยและสังเกตถึงการหลบซ่อนตัวได้อย่างเป็นปกติโดยที่ทางการไทยไม่ได้เร่งรัดดำเนินการใด ๆ ทั้ง ๆ ที่คดีที่นายวิรพลก่อไว้ค่อนข้างรุนแรงเนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายเป็นอย่างมาก
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงหลังวันออกพรรษาเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา พุทธศาสนิกชนในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะที่เมืองเลคเอลซินอร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ในงานกฐินของวัดขันติธรรม วันที่ 12 ต.ค.57 ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเจ้าของโฉนดที่ดินคือ นายวิรพล อยู่นั้น (บ้านเลขที่32140 Ortega Hwy.Lake Elsinore CA 92530) ปรากฏร่างของนายวิรพลในชุดห่มจีวรมารับกฐินราว 2.5 แสนบาท หรือราว 7-8 พันดอลล่าร์สหรัฐฯ จากลูกศิษย์คนไทยและต่างชาติจำนวนหนึ่ง มีพระครูภาวนาวรธรรมวิเทศ หรือ พระครูปานขาววัดโพธิญาณ เมืองตวกโหน่งประเทศฝรั่งเศส เป็นประธานในพิธี
สำหรับการออกสู่สาธารณชนในครั้งนี้นายวิรพลได้ระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก มีลูกศิษย์คนสนิทคอยดูแลความปลอดภัย และตรวจสอบบุคคลที่เข้ามาในพิธีอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ข้อมูลจากแหล่งข่าวสำคัญระบุว่า นายวิรพลยังพักอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งคาดเป็นบ้านลูกศิษย์ที่ตั้งอยู่ใกล้กับวัดขันติธรรม เพื่อหลบซ่อนและหนีการติดตามตัวจากเจ้าหน้าที่ไทยรวมทั้งยังปล่อยข่าวลือว่า ได้ละจากสมณเพศแล้วรวมถึงเดินทางออกจากสหรัฐฯ ไปยังฝรั่งเศส หรือ ลาว เตรียมเข้าไทยเพื่อมอบตัวต่อสู้คดี แต่ทุกอย่างเป็นเพียงข่าวลือที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ไทยรวมถึงคนไทยไขว้เขวเท่านั้นเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา นายวิรพลได้เก็บตัวเงียบและพยายามปล่อยข่าวว่า ได้ลาสิกขาแล้วแต่ในความเป็นจริงยังครองสมณเพศ เป็นพระภิกษุเหมือนเดิม แต่ไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือยเหมือนในอดีตแล้ว แต่ล่าสุดมีคนพบว่านายวิรพลได้ไปสอบใบขับขี่ของรัฐเพื่อนำไปใช้งานเนื่องจากได้นำรถยนต์มาขับไปไหนมาไหนตามปกติ โดยที่พยานสามารถจดจำได้ครั้งหนึ่งคือ นายวิรพล ได้ขับรถออกวนเวียนไปในเขตเมืองซานดิเอโก้ และเมืองข้างเคียงมีเมืองเลค เอลซินอร์ เมืองชิโน่ฮิลส์ เมืองวิลโดม่าร์ และเมืองเอสคอนดิโด้ ซึ่งแต่ละครั้งนายวิรพลจะมีคนติดตามไปด้วยราว 4-5 คน แต่ไม่ได้เข้าจำวัดใดวันหนึ่งอย่างเป็นทางการเพียงแต่เข้าไปทำภารกิจเป็นครั้งคราวเท่านั้น
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลด้านต่าง ๆ ของอดีตหลวงปู่เณรคำพบว่า ในกลุ่มผู้ใช้โซเซียลมีเดียและเว็บไซต์ชื่อดังอย่างอะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะดอทคอม หรือ เฟซบุ๊ค CSILA เป็นต้น โดยรายงานความเคลื่อนไหวของนายวิรพล หรือ อดีตหลวงปู่เณรคำถึงการใช้ชีวิตในสหรัฐฯ รวมถึงความเคลื่อนไหวต่าง ๆ โดยต่างมีการตั้งข้อสงสัยและสังเกตถึงการหลบซ่อนตัวได้อย่างเป็นปกติโดยที่ทางการไทยไม่ได้เร่งรัดดำเนินการใด ๆ ทั้ง ๆ ที่คดีที่นายวิรพลก่อไว้ค่อนข้างรุนแรงเนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายเป็นอย่างมาก