พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) เปิดเผยกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า รัฐบาลไทยมีการอนุมัติแจกจ่ายอาวุธปืนสงครามจำนวน 2,700 กระบอกให้กำลังภาคประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อใช้ต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อความรุนแรงทำให้หลายฝ่ายเกิดการเข้าใขผิด จึงขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจว่าการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ขณะนี้อยู่ในระยะที่ 2 มุ่งเน้นเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่กำลังฝ่ายพลเรือน ควบคู่กับการพัฒนาให้สามารถดูแลความปลอดภัยให้แก่ตนเองและชุมชน
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมส่งผ่านการแก้ปัญหาไปสู่ระยะที่ 3 คือ การเสริมสร้างสันติสุขและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต แต่ปัจจุบันกำลังภาคประชาชนยังคงขาดแคลนอาวุธประจำการจำนวนมาก ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองจึงได้มีการอนุมัติเบิกยืมจากกองทัพบก จำนวน 2,700 กระบอก เพื่อใช้เป็นอาวุธประจำการสนับสนุนการปฏิบัติงานของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน โดยถือเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่และเพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมส่งผ่านการแก้ปัญหาไปสู่ระยะที่ 3 คือ การเสริมสร้างสันติสุขและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต แต่ปัจจุบันกำลังภาคประชาชนยังคงขาดแคลนอาวุธประจำการจำนวนมาก ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองจึงได้มีการอนุมัติเบิกยืมจากกองทัพบก จำนวน 2,700 กระบอก เพื่อใช้เป็นอาวุธประจำการสนับสนุนการปฏิบัติงานของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน โดยถือเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่และเพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนต่อไป
