รายงานข่าวจากกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิต พร้อมดำเนินการเก็บภาษีเครื่องดื่มที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพตามนโยบายของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยที่ผ่านมากรมได้มีการศึกษาเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ทั้งการเก็บภาษีจากเครื่องดื่มชาเขียว เครื่องดื่มน้ำผลไม้ที่มีส่วนผสมไม่ตรงตามเงื่อนไข รวมถึงเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งมีอัตราการเก็บภาษีดังกล่าวอยู่แล้วที่ 20% แต่ปัจจุบันเครื่องดื่มดังกล่าวอยู่ในบัญชียกเว้น 111 รายการ เพราะถือว่าเป็นการสนับสนุนเกษตรกร
ที่ผ่านมา กรมสรรพสามิต ได้ทำการตรวจสอบพบว่า เครื่องดื่มชาเขียว และน้ำผลไม้ มีส่วนผสมของสินค้าทางการเกษตรน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นน้ำผสมน้ำตาล และสารปรุงแต่งรสและกลิ่น ซึ่งถือว่าไม่เป็นประโยชน์กับร่างกาย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่เป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ของสินค้าดังกล่าว
ทั้งนี้ หากต้องการเก็บภาษีชาเขียว และน้ำผลไม้ ก็สามารถถอดเครื่องดื่มดังกล่าวออกจากบัญชียกเว้นได้เลย ส่วนอัตราภาษีจะเก็บ 10% หรือ 20% ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบายจะตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม การเก็บภาษีชาเขียว และน้ำผลไม้ ต้องมีการกำหนดให้ชัดเจนว่าต้องมีส่วนผสมของชา หรือผลไม้ ในจำนวนมากถึงจะได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิต เพื่อให้แน่ใจได้ว่าเครื่องดื่มดังกล่าวเป็นการสนับสนุนเกษตรกรจริง
ก่อนหน้านี้ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้ทบทวนเครื่องดื่ม 111 รายการ ที่ได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิต เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ส่งเสริมอาชีพเกษตรกร และไม่เป็นภัยกับสุขภาพ ว่ายังอยู่ในเงื่อนไขดังกล่าวหรือไม่ รวมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตทุกจังหวัด ให้ติดตามการตั้งโรงงานเครื่องดื่มใหม่ๆ รวมถึงการตรวจตู้แช่ว่ามีเครื่องดื่มใดบ้างที่ยังไม่เข้ามาในระบบ เพราะการผลิตเครื่องดื่มขายต้องได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิต ถึงแม้ว่าไม่ได้เสียภาษีกรมสรรพสามิต แต่การเข้ามาอยู่ในระบบทำให้ควบคุมคุณภาพว่าผลิตได้มาตรฐานไม่เป็นผลร้ายกับผู้บริโภค รวมถึงการได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิต ก็ต้องได้รับอนุญาตสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยามาก่อน
นอกจากนี้ การเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มประเภทชาเขียวเป็นข้อเสนอของทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ที่บรรจุไว้ในโรดแมปของกระทรวงการคลัง ที่เสนอไว้กับทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ที่ผ่านมา กรมสรรพสามิต ได้ทำการตรวจสอบพบว่า เครื่องดื่มชาเขียว และน้ำผลไม้ มีส่วนผสมของสินค้าทางการเกษตรน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นน้ำผสมน้ำตาล และสารปรุงแต่งรสและกลิ่น ซึ่งถือว่าไม่เป็นประโยชน์กับร่างกาย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่เป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ของสินค้าดังกล่าว
ทั้งนี้ หากต้องการเก็บภาษีชาเขียว และน้ำผลไม้ ก็สามารถถอดเครื่องดื่มดังกล่าวออกจากบัญชียกเว้นได้เลย ส่วนอัตราภาษีจะเก็บ 10% หรือ 20% ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบายจะตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม การเก็บภาษีชาเขียว และน้ำผลไม้ ต้องมีการกำหนดให้ชัดเจนว่าต้องมีส่วนผสมของชา หรือผลไม้ ในจำนวนมากถึงจะได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิต เพื่อให้แน่ใจได้ว่าเครื่องดื่มดังกล่าวเป็นการสนับสนุนเกษตรกรจริง
ก่อนหน้านี้ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้ทบทวนเครื่องดื่ม 111 รายการ ที่ได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิต เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ส่งเสริมอาชีพเกษตรกร และไม่เป็นภัยกับสุขภาพ ว่ายังอยู่ในเงื่อนไขดังกล่าวหรือไม่ รวมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตทุกจังหวัด ให้ติดตามการตั้งโรงงานเครื่องดื่มใหม่ๆ รวมถึงการตรวจตู้แช่ว่ามีเครื่องดื่มใดบ้างที่ยังไม่เข้ามาในระบบ เพราะการผลิตเครื่องดื่มขายต้องได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิต ถึงแม้ว่าไม่ได้เสียภาษีกรมสรรพสามิต แต่การเข้ามาอยู่ในระบบทำให้ควบคุมคุณภาพว่าผลิตได้มาตรฐานไม่เป็นผลร้ายกับผู้บริโภค รวมถึงการได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิต ก็ต้องได้รับอนุญาตสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยามาก่อน
นอกจากนี้ การเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มประเภทชาเขียวเป็นข้อเสนอของทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ที่บรรจุไว้ในโรดแมปของกระทรวงการคลัง ที่เสนอไว้กับทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)