ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี500ทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่เมื่อวันพุธ(5พ.ย.) ก หลังผลศึกเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯส่งรีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งสองสภา
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 100.69 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,484.53 จุด ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล 95 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 11.47 จุด (0.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,023.57 จุด แนสแดค ลดลง 2.91 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,620.72 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า พรรครีพับลิกันสามารถคว้าฐานอำนาจในการควบคุมวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตได้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี และยังสามารถครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยเช่นกัน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า พรรครีพับลิกันมีนโยบายที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจมากกว่า ตลาดจึงขานรับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ นอกจากนั้น ชัยชนะของพรรครีพับลิกันได้จุดประกายความหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าเสรีในภูมิภาคแปซิฟิกระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นด้วย
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของ ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานสหรัฐ ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐปรับตัวขึ้น 230,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่ง และนับเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันที่ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเกิน 200,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในคืนนี้ตามเวลาไทย สหรัฐจะเปิดเผยประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นในไตรมาส 3 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ส่วนในวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนต.ค. และสินเชื่อผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.ย.
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 100.69 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,484.53 จุด ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล 95 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 11.47 จุด (0.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,023.57 จุด แนสแดค ลดลง 2.91 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,620.72 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า พรรครีพับลิกันสามารถคว้าฐานอำนาจในการควบคุมวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตได้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี และยังสามารถครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยเช่นกัน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า พรรครีพับลิกันมีนโยบายที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจมากกว่า ตลาดจึงขานรับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ นอกจากนั้น ชัยชนะของพรรครีพับลิกันได้จุดประกายความหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าเสรีในภูมิภาคแปซิฟิกระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นด้วย
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของ ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานสหรัฐ ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐปรับตัวขึ้น 230,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่ง และนับเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันที่ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเกิน 200,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในคืนนี้ตามเวลาไทย สหรัฐจะเปิดเผยประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นในไตรมาส 3 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ส่วนในวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนต.ค. และสินเชื่อผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.ย.