ชาวอเมริกันไปใช้สิทธิเลือกตั้งกลางสมัยกันในวันอังคาร (4 พ.ย.) โดยที่มีทั้งการลงคะแนนโหวตสมาชิกรัฐสภาและผู้ว่าการมลรัฐ ทั้งนี้เป็นที่คาดหมายกันว่าพรรครีพับลิกันนอกจากรักษาที่นั่งเกินกึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎรได้สำเร็จแล้ว ยังจะช่วงชิงเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตได้ด้วย อันจะเป็นการตอกย้ำความพ่ายแพ้ให้แก่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้ที่ยังเหลือเวลาในการบริหารประเทศอีก 2 ปี โดยที่ผลโพลล่าสุดชี้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้คณะรัฐบาลของเขาทบทวนแนวทางรับมือปัญหาสำคัญๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ รวมถึงเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่อาวุโสบางคน
ตามประวัติศาสตร์นั้น พรรคของประธานาธิบดีที่ครองตำแหน่งอยู่ มักมีผลงานย่ำแย่ในการเลือกตั้งมิดเทอมของสมัยที่ 2 แห่งการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีผู้นั้น และบารัค โอบามา คงหนีคำสาปนี้ไม่พ้น
แคมเปญหาเสียงของพวกสมาชิกรีพับลิกันจำนวนมาก พุ่งเป้าโจมตีโอบามาและนโยบายในการบริหารประเทศของเขา โดยเฉพาะแผนประกันสุขภาพ “โอบามาแคร์” ขณะที่พลพรรคเดโมแครตเองพยายามเลี่ยงการดึงประธานาธิบดีที่คะแนนนิยมกำลังร่วงหล่นน่าใจหาย ให้มาร่วมสนับสนุนในการหาเสียง
หน่วยเลือกตั้งทั่วสหรัฐฯเปิดอย่างเป็นทางการในเวลา 6.00 น. วันอังคาร (4) โดยเริ่มต้นจากรัฐทางภาคตะวันออก โดยที่ผู้มีสิทธิออกเสียงชาวอเมริกันจะโหวตเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสภา 435 คน ขณะเดียวกันในบางมลรัฐก็จะมีการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกและผู้ว่าการมลรัฐในรัฐของตนที่ครบวาระ ทั้งนี้ทั่วประเทศจะมีการเลือกวุฒิสมาชิกรวม 36 คน และผู้ว่าการรัฐ 36 ตำแหน่ง
รีพับลิกันสามารถยึดกุมเสียงข้างมากในสภาล่างมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปีแล้ว และมีโอกาสสูงลิ่วที่จะชนะได้ที่นั่งมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ขณะที่ในวุฒิสภาปัจจุบัน เดโมแครตครองที่นั่งมากกว่าในระดับ 55 ต่อ 45 ที่นั่ง ดังนั้น ถ้ารีพับลิกันช่วงชิงที่นั่งในสภาสูงได้เพิ่มขึ้นสุทธิ 6 ที่นั่ง ก็ได้ครองเสียงเกินกึ่งหนึ่งในวุฒิสภาอีกสภาหนึ่ง และทำให้ช่วงเวลา 2 ปีที่เหลือของโอบามายิ่งยากลำบากขึ้นในการผลักดันกฎหมายให้ผ่านรัฐสภา รวมทั้งการขออนุมัติแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญๆ ของฝ่ายบริหารและของฝ่ายตุลาการ
นอกจากนั้น หากเดโมแครตเสียสภาสูงให้รีพับลิกัน โอบามายังจะถูกกดดันหนักให้ต้องยกเครื่องคณะรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาว โดยผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปโซส์ระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 75% เชื่อว่า คณะรัฐบาลโอบามาต้อง “ทบทวน” แนวทางกสนรับมือกับปัญหาใหญ่ๆ ที่อเมริกาเผชิญอยู่ และ 64% เห็นว่า โอบามาควรเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่อาวุโสบางคนภายหลังการเลือกตั้งกลางสมัย
ตามประวัติศาสตร์นั้น พรรคของประธานาธิบดีที่ครองตำแหน่งอยู่ มักมีผลงานย่ำแย่ในการเลือกตั้งมิดเทอมของสมัยที่ 2 แห่งการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีผู้นั้น และบารัค โอบามา คงหนีคำสาปนี้ไม่พ้น
แคมเปญหาเสียงของพวกสมาชิกรีพับลิกันจำนวนมาก พุ่งเป้าโจมตีโอบามาและนโยบายในการบริหารประเทศของเขา โดยเฉพาะแผนประกันสุขภาพ “โอบามาแคร์” ขณะที่พลพรรคเดโมแครตเองพยายามเลี่ยงการดึงประธานาธิบดีที่คะแนนนิยมกำลังร่วงหล่นน่าใจหาย ให้มาร่วมสนับสนุนในการหาเสียง
หน่วยเลือกตั้งทั่วสหรัฐฯเปิดอย่างเป็นทางการในเวลา 6.00 น. วันอังคาร (4) โดยเริ่มต้นจากรัฐทางภาคตะวันออก โดยที่ผู้มีสิทธิออกเสียงชาวอเมริกันจะโหวตเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสภา 435 คน ขณะเดียวกันในบางมลรัฐก็จะมีการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกและผู้ว่าการมลรัฐในรัฐของตนที่ครบวาระ ทั้งนี้ทั่วประเทศจะมีการเลือกวุฒิสมาชิกรวม 36 คน และผู้ว่าการรัฐ 36 ตำแหน่ง
รีพับลิกันสามารถยึดกุมเสียงข้างมากในสภาล่างมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปีแล้ว และมีโอกาสสูงลิ่วที่จะชนะได้ที่นั่งมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ขณะที่ในวุฒิสภาปัจจุบัน เดโมแครตครองที่นั่งมากกว่าในระดับ 55 ต่อ 45 ที่นั่ง ดังนั้น ถ้ารีพับลิกันช่วงชิงที่นั่งในสภาสูงได้เพิ่มขึ้นสุทธิ 6 ที่นั่ง ก็ได้ครองเสียงเกินกึ่งหนึ่งในวุฒิสภาอีกสภาหนึ่ง และทำให้ช่วงเวลา 2 ปีที่เหลือของโอบามายิ่งยากลำบากขึ้นในการผลักดันกฎหมายให้ผ่านรัฐสภา รวมทั้งการขออนุมัติแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญๆ ของฝ่ายบริหารและของฝ่ายตุลาการ
นอกจากนั้น หากเดโมแครตเสียสภาสูงให้รีพับลิกัน โอบามายังจะถูกกดดันหนักให้ต้องยกเครื่องคณะรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาว โดยผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปโซส์ระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 75% เชื่อว่า คณะรัฐบาลโอบามาต้อง “ทบทวน” แนวทางกสนรับมือกับปัญหาใหญ่ๆ ที่อเมริกาเผชิญอยู่ และ 64% เห็นว่า โอบามาควรเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่อาวุโสบางคนภายหลังการเลือกตั้งกลางสมัย