นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ วัดต้นดู่ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ในโครงการสินเชื่อชะลอขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2557/2558 วงเงิน 34,788 ล้านบาท เปิดให้ชาวนาภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 ถึง 30 กันยายน 2558 และเริ่มจ่ายเงินตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2558 และให้ชำระคืนเงินกู้ภายใน 4 เดือน นับจากเดือนที่รับเงินกู้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นสินเชื่อช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกมาปริมาณมากและมีราคาตกต่ำ เพื่อให้เกษตรกรมีทางเลือกในการชะลอการขาย ไม่ต้องพะวงกับปัญหาเงินที่ต้องนำมาใช้จ่ายในครัวเรือนและภาระหนี้สิน และสามารถนำผลผลิต คือข้าวเปลือกหอมมะลิ และข้าวเปลือกเหนียวมาขอกู้กับ ธ.ก.ส.อัตราร้อยละ 90 ของราคาตลาด วงเงินไม่เกินรายละ 30,000 บาท โดยไม่เสียดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ในงานดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมประมาณ 300 คน ประกอบด้วย ตัวแทนสถาบันสหกรณ์การเกษตร ผู้นำเกษตรกร หัวหน้ากลุ่มลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในการนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้พบปะประชาชน เยี่ยมชนนิทรรศการ ตรวจเยี่ยมยุ้งฉางการเกษตร และมอบเงินช่วยเหลือเกาตรกรผู้ปลูกข้าว ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการจ่ายเงินให้ชาวนาในพื้นที่ไปแล้ว จำนวน 425 ราย เนื้อที่กว่า 4,200 ไร่ เป็นวงเงินทั้งสินกว่า 4,200,000 บาท
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นสินเชื่อช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกมาปริมาณมากและมีราคาตกต่ำ เพื่อให้เกษตรกรมีทางเลือกในการชะลอการขาย ไม่ต้องพะวงกับปัญหาเงินที่ต้องนำมาใช้จ่ายในครัวเรือนและภาระหนี้สิน และสามารถนำผลผลิต คือข้าวเปลือกหอมมะลิ และข้าวเปลือกเหนียวมาขอกู้กับ ธ.ก.ส.อัตราร้อยละ 90 ของราคาตลาด วงเงินไม่เกินรายละ 30,000 บาท โดยไม่เสียดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ในงานดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมประมาณ 300 คน ประกอบด้วย ตัวแทนสถาบันสหกรณ์การเกษตร ผู้นำเกษตรกร หัวหน้ากลุ่มลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในการนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้พบปะประชาชน เยี่ยมชนนิทรรศการ ตรวจเยี่ยมยุ้งฉางการเกษตร และมอบเงินช่วยเหลือเกาตรกรผู้ปลูกข้าว ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการจ่ายเงินให้ชาวนาในพื้นที่ไปแล้ว จำนวน 425 ราย เนื้อที่กว่า 4,200 ไร่ เป็นวงเงินทั้งสินกว่า 4,200,000 บาท