นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า ไทยจำเป็นต้องเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 เพราะว่าปริมาณก๊าซธรรมชาติในไทยที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะหมดลงในอีก 8 ปีข้างหน้า ปัจจุบันไทยใช้ก๊าซมากถึงวันละ 5,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต แต่ว่าผลิตได้เอง 4,000 ลูกบาศก์ฟุต ที่เหลือต้องนำเข้าจากพม่าในรูปของก๊าซธรรมชาติเหลว ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาไทยหาแหล่งปิโตรเลียมมาทดแทนที่ใช้อยู่ไปได้เพียง 1 ใน 4 เท่านั้น และมีแนวโน้มว่า ปี 2567 ปริมาณการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในไทยจะเหลือ 1 ใน 3 ของปริมาณการผลิตปัจจุบันเท่านั้น
ส่วนการเปิดให้ต่างชาติมายื่นขอเปิดสำรวจปิโตรเลียมด้วยก็เพราะว่า แหล่งปิโตรเลียมในไทยหายากจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งไทยไม่มี และหากเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ไม่พบก๊าซหรือน้ำมันไทยต้องนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลวเข้ามาผลิตกระแสไฟฟ้า สุดท้ายจะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าปรับขึ้นเป็นหน่วยละ 5.50 บาท จากที่ปัจจุบันใช้อยู่ที่หน่วยละ 3.99 บาท
ส่วนการเปิดให้ต่างชาติมายื่นขอเปิดสำรวจปิโตรเลียมด้วยก็เพราะว่า แหล่งปิโตรเลียมในไทยหายากจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งไทยไม่มี และหากเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ไม่พบก๊าซหรือน้ำมันไทยต้องนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลวเข้ามาผลิตกระแสไฟฟ้า สุดท้ายจะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าปรับขึ้นเป็นหน่วยละ 5.50 บาท จากที่ปัจจุบันใช้อยู่ที่หน่วยละ 3.99 บาท
