ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(28ต.ค.) ปิดบวกอย่างแรง จากข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง และรายงานผลประกอบการอันสดใสของบริษัทต่างๆ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 187.81 จุด (1.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,005.75 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 23.42 จุด (1.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,985.05 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 78.36 จุด (1.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,564.29 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับฐานขึ้นตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ และดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจนกระทั่งตลาดปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 94.5 จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 89.0 โดยดัชนีความเชื่อมั่นเดือนต.ค.เคลื่อนไหวในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2550 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 87.0 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความมั่นใจในแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดแรงงานภายในประเทศมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.ปรับตัวลดลง 1.3% ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะดีดตัวขึ้น 0.5% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาคเอกชนของสหรัฐวางแผนที่จะลดการลงทุนทางธุรกิจ
หุ้นไฟเซอร์ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 0.21% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 มูลค่า 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 57 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 55 เซนต์ในไตรมาส 3
หุ้นทวิตเตอร์ร่วงลง 9.84% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 361 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 351 ล้านดอลลาร์
ส่วนเฟซบุ๊กได้เปิดเผยผลประกอบการหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการแล้ว โดยระบุว่า รายได้ต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ 43 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 40 เซนต์ และผลประกอบการไตรมาส 3 อยู่ที่ 3.20 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.12 พันล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดูสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของจีดีพีในช่วงไตรมาส 3/2557 ในวันพฤหัสบดีนี้ และในวันเดียวกันนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 29 ต.ค.ตามเวลาสหรัฐ โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะประกาศยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ในการประชุมครั้งนี้ พร้อมกับจับตาดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 187.81 จุด (1.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,005.75 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 23.42 จุด (1.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,985.05 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 78.36 จุด (1.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,564.29 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับฐานขึ้นตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ และดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจนกระทั่งตลาดปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 94.5 จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 89.0 โดยดัชนีความเชื่อมั่นเดือนต.ค.เคลื่อนไหวในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2550 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 87.0 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความมั่นใจในแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดแรงงานภายในประเทศมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.ปรับตัวลดลง 1.3% ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะดีดตัวขึ้น 0.5% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาคเอกชนของสหรัฐวางแผนที่จะลดการลงทุนทางธุรกิจ
หุ้นไฟเซอร์ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 0.21% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 มูลค่า 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 57 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 55 เซนต์ในไตรมาส 3
หุ้นทวิตเตอร์ร่วงลง 9.84% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 361 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 351 ล้านดอลลาร์
ส่วนเฟซบุ๊กได้เปิดเผยผลประกอบการหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการแล้ว โดยระบุว่า รายได้ต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ 43 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 40 เซนต์ และผลประกอบการไตรมาส 3 อยู่ที่ 3.20 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.12 พันล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดูสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของจีดีพีในช่วงไตรมาส 3/2557 ในวันพฤหัสบดีนี้ และในวันเดียวกันนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 29 ต.ค.ตามเวลาสหรัฐ โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะประกาศยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ในการประชุมครั้งนี้ พร้อมกับจับตาดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
