นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยหลังการเปิดประมูลข้าวในสต๊อกครั้งที่ 3 ในรัฐบาลปัจจุบัน โดยปริมาณที่เปิดประมูลรวม 207,898.78 ตัน ประกอบด้วยข้าว 2 ชนิด ได้แก่ ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ปี 2555/56 (รอบ 1 และรอบ 2) ปี 2556/57 ปลายข้าวขาวเอวันเลิศ ปี 2554/55 นาปรังปี 2555 และปี 2555/56 (รอบ 1 และรอบ 2) โดยเป็นข้าวในสต๊อกของรัฐที่อยู่ในคลังในความรับผิดชอบขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จำนวน 42 คลัง ใน 17 จังหวัด มีผู้ยื่นซองเสนอราคาที่ผ่านคุณสมบัติจำนวนทั้งสิ้น 37 ราย ปรากฏมีผู้ชนะการประมูลในครั้งนี้ 18 ราย ปริมาณ 203,000 ตัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 98 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณข้าวที่นำมาเปิดประมูล มูลค่ารวมประมาณ 1,930 ล้านบาท โดยผู้เข้าร่วมประมูล อาทิ โรงสีข้าวรวมชัยสังขะ โรงสีข้าวสุวิทย์ไรซ์มิลล์ โรงสีสวัสดิ์ไพบูลย์ เอเชียโกเด้นไรซ์ ข้าว ซี.พี. นครหลวงค้าข้าว สยามอินดิก้า เป็นต้น เฉลี่ยราคาที่เสนอซื้อสูงสุดของข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ อยู่ระหว่าง 10,700-12,180 บาทต่อตัน สำหรับปลายข้าวขาวเอวันเลิศ อยู่ระหว่าง 7,000-8,660 บาทต่อตัน
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศจะประกาศผลการประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐอย่างเป็นทางการให้ผู้ชนะการประมูลทราบภายหลังได้รับความเห็นชอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ต่อไป
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ภาพรวมราคาข้าวในการประมูลครั้งนี้นับว่าได้ราคาดี และเอกชนก็สนใจเข้าร่วมประมูลจำนวนมาก ส่วนการเปิดประมูลรอบใหม่นั้นต้องหารือกันอีกครั้ง ในเบื้องต้นต้องพิจารณาความต้องการของตลาดเป็นหลัก แม้ว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดก็ตาม แต่เนื่องจากว่าข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่รอการประมูลเป็นข้าวเก่าและคนละตลาด และการระบายช่วงนี้ก็ไม่มีแรงกดดันและไม่กระทบตลาดแน่นอน เพราะกรมฯ เน้นการทยอยประมูล
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศจะประกาศผลการประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐอย่างเป็นทางการให้ผู้ชนะการประมูลทราบภายหลังได้รับความเห็นชอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ต่อไป
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ภาพรวมราคาข้าวในการประมูลครั้งนี้นับว่าได้ราคาดี และเอกชนก็สนใจเข้าร่วมประมูลจำนวนมาก ส่วนการเปิดประมูลรอบใหม่นั้นต้องหารือกันอีกครั้ง ในเบื้องต้นต้องพิจารณาความต้องการของตลาดเป็นหลัก แม้ว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดก็ตาม แต่เนื่องจากว่าข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่รอการประมูลเป็นข้าวเก่าและคนละตลาด และการระบายช่วงนี้ก็ไม่มีแรงกดดันและไม่กระทบตลาดแน่นอน เพราะกรมฯ เน้นการทยอยประมูล
