นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้หลายภูมิภาคของประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็น ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นไปท่องเที่ยว โดยเฉพาะบริเวณภูเขาสูง ยอดดอย ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น ทำให้ต้องอาบน้ำอุ่นจากเครื่องทำน้ำอุ่น บางรีสอร์ตติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้แก๊สที่ไม่ได้มาตรฐาน ประกอบกับแก๊ส LPG หรือแก๊สหุงต้มและแก๊สโพรเพน ในเครื่องทำน้ำอุ่นสันดาปไม่ดี ถ้าร่วมกับห้องน้ำไม่มีอากาศถ่ายเท ทำให้เกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และคาร์บอนมอนนอกไซด์ ในปริมาณมากจนทำให้เกิดอากาศหายใจ หมดสติ และเสียชีวิตได้อย่างเฉียบพลัน เนื่องจากขาดออกซิเจน จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพ โดยสำนักระบาดวิทยา
กรมควบคุมโรคในฤดูหนาวปี 2555-2556 พบผู้ป่วยหมดสติขณะอาบน้ำในห้องน้ำ ที่ใช้เครื่องทำน้ำอุ่น แบบใช้ระบบแก๊สในที่พักพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จำนวน 5 ราย เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งตรวจระดับก๊าซในห้องน้ำ พบว่า มีระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ อยู่ในระดับสูงมากที่เป็นระดับที่สามารถทำให้เสียชีวิตได้ทันที และคาดว่าน่าจะมีการป่วยและเสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในที่พักพื้นที่อื่นๆ อีกหลายแห่ง แต่ไม่ได้มีการติดตามเฝ้าระวัง ดังนั้น จึงควรให้ความระมัดระวังการเดินทางไปพักผ่อนในที่พักที่มีการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้แก๊ส รวมทั้งการใช้อุปกรณ์ทำความอบอุ่นที่ใช้แก๊ส หรือน้ำมันก๊าดเป็นเชื้อเพลิงดังกล่าว
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่าเจ้าของโรงแรม รีสอร์ต ที่พัก ที่มีการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊สควรดำเนินการดังนี้
1) มีการตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และการบำรุงรักษาเครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้ระบบแก๊ส
2) ตรวจสอบการรั่วและปริมาณการสะสมของก๊าซในสถานที่พักอยู่เสมอ
3) ห้องน้ำหรือห้องพักควรมีพื้นที่กว้างเพียงพอ และมีช่องหรือพัดลมระบายอากาศที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน และ
4) ติดป้ายเตือนและ บอกถึงวิธีใช้งานของเครื่องทำน้ำอุ่นไว้อย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน ผู้ที่เข้าพักอาศัยควรปฏิบัติดังนี้ 1) สังเกตอาการที่อาจเกิดขึ้นจากการได้รับแก๊ส ระหว่างใช้ห้องน้ำ เช่น วิงเวียน หน้ามืด หายใจลำบาก เป็นต้น ควรรีบออกจากห้องน้ำ หรือให้การช่วยเหลือทันที
2) คนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคระบบทางเดินลมหายใจ ควรระมัดระวังมากขึ้นในการใช้ห้องน้ำที่มีเครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊ส เพราะหากได้รับก๊าซดังกล่าวจะทำให้เสียชีวิตได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่นๆ และ
3) การอาบน้ำโดยเครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้แก๊สหุงต้ม ถ้าไม่มีเครื่องระบายอากาศ ควรเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ 15 นาที เพื่อให้อากาศถ่ายเท ก่อนที่คนอื่นจะอาบน้ำต่อ หากมีคนอาบน้ำนานผิดปกติให้รีบช่วยเหลือ เพราะอาจหมดสติในห้องน้ำ
"สำหรับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าของที่พัก และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ควรให้ความรู้แก่ประชาชนในการเข้าพักอาศัยในโรงแรม ที่พัก ที่มีการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊ส อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้เพียงพอ และจำเป็นต้องใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง เช่น บริเวณป่า ภูเขาสูง เป็นต้น ผู้สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422" นายแพทย์โสภณ กล่าว
กรมควบคุมโรคในฤดูหนาวปี 2555-2556 พบผู้ป่วยหมดสติขณะอาบน้ำในห้องน้ำ ที่ใช้เครื่องทำน้ำอุ่น แบบใช้ระบบแก๊สในที่พักพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จำนวน 5 ราย เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งตรวจระดับก๊าซในห้องน้ำ พบว่า มีระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ อยู่ในระดับสูงมากที่เป็นระดับที่สามารถทำให้เสียชีวิตได้ทันที และคาดว่าน่าจะมีการป่วยและเสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในที่พักพื้นที่อื่นๆ อีกหลายแห่ง แต่ไม่ได้มีการติดตามเฝ้าระวัง ดังนั้น จึงควรให้ความระมัดระวังการเดินทางไปพักผ่อนในที่พักที่มีการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้แก๊ส รวมทั้งการใช้อุปกรณ์ทำความอบอุ่นที่ใช้แก๊ส หรือน้ำมันก๊าดเป็นเชื้อเพลิงดังกล่าว
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่าเจ้าของโรงแรม รีสอร์ต ที่พัก ที่มีการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊สควรดำเนินการดังนี้
1) มีการตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และการบำรุงรักษาเครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้ระบบแก๊ส
2) ตรวจสอบการรั่วและปริมาณการสะสมของก๊าซในสถานที่พักอยู่เสมอ
3) ห้องน้ำหรือห้องพักควรมีพื้นที่กว้างเพียงพอ และมีช่องหรือพัดลมระบายอากาศที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน และ
4) ติดป้ายเตือนและ บอกถึงวิธีใช้งานของเครื่องทำน้ำอุ่นไว้อย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน ผู้ที่เข้าพักอาศัยควรปฏิบัติดังนี้ 1) สังเกตอาการที่อาจเกิดขึ้นจากการได้รับแก๊ส ระหว่างใช้ห้องน้ำ เช่น วิงเวียน หน้ามืด หายใจลำบาก เป็นต้น ควรรีบออกจากห้องน้ำ หรือให้การช่วยเหลือทันที
2) คนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคระบบทางเดินลมหายใจ ควรระมัดระวังมากขึ้นในการใช้ห้องน้ำที่มีเครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊ส เพราะหากได้รับก๊าซดังกล่าวจะทำให้เสียชีวิตได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่นๆ และ
3) การอาบน้ำโดยเครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้แก๊สหุงต้ม ถ้าไม่มีเครื่องระบายอากาศ ควรเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ 15 นาที เพื่อให้อากาศถ่ายเท ก่อนที่คนอื่นจะอาบน้ำต่อ หากมีคนอาบน้ำนานผิดปกติให้รีบช่วยเหลือ เพราะอาจหมดสติในห้องน้ำ
"สำหรับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าของที่พัก และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ควรให้ความรู้แก่ประชาชนในการเข้าพักอาศัยในโรงแรม ที่พัก ที่มีการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊ส อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้เพียงพอ และจำเป็นต้องใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง เช่น บริเวณป่า ภูเขาสูง เป็นต้น ผู้สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422" นายแพทย์โสภณ กล่าว