นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยภายหลัง นายมาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เข้าหารือกรณี 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษถูกฆาตกรรม ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ทางเอกอัครราชทูตได้พูดคุยเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ กสม.และมุมมองเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน รวมถึงคดีนักท่องเที่ยวถูกฆ่าที่เกาะเต่าด้วย ซึ่งทูตอังกฤษระบุว่า ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีอังกฤษและนายกรัฐมนตรีของไทยได้พูดคุยกัน โดยนายกรัฐมนตรีไทยยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจอังกฤษที่จะเข้ามาทำงานร่วมกับตำรวจไทย
ทูตอังกฤษได้ย้ำว่า ขอบเขตการทำงานเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจไทย ตำรวจอังกฤษมาร่วมสังเกตการณ์เท่านั้น ซึ่งขอบข่ายการทำงานขึ้นอยู่กับการตกลงของตำรวจทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งต้องมีการพูดคุยกัน ทราบมาว่าตำรวจอังกฤษจะเดินทางถึงประเทศไทยภายในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม การพูดคุยในวันนี้ยังไม่ลงลึกในรายละเอียดเรื่องของคดี แต่ทูตก็ได้แสดงความกังวลบ้างเล็กน้อย เนื่องจากเป็นแรงกดดันภายในประเทศตามที่รัฐมนตรีอังกฤษแสดงความกังวลเกี่ยวกับข่าวการทรมานผู้ต้องหา แต่ทูตอังกฤษก็รู้สึกดีที่ กสม.เข้ามาทำงานในคดีนี้ เพราะถือว่าจะได้ข้อมูลอีกชุดหนึ่ง ซึ่งต่างจากข้อมูลของตำรวจ อีกทั้งการทำงาน กสม.จะแยกกับหน่วยงานของตำรวจอย่างเด็ดขาด
ขณะที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้บอกกับเอกอัครราชทูตสหราชอณาจักรว่า การทำงานของกรรมการสิทธิมนุษยชนได้มีการแบ่งงานกันทำกับตำรวจอย่างชัดเจน
ทูตอังกฤษได้ย้ำว่า ขอบเขตการทำงานเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจไทย ตำรวจอังกฤษมาร่วมสังเกตการณ์เท่านั้น ซึ่งขอบข่ายการทำงานขึ้นอยู่กับการตกลงของตำรวจทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งต้องมีการพูดคุยกัน ทราบมาว่าตำรวจอังกฤษจะเดินทางถึงประเทศไทยภายในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม การพูดคุยในวันนี้ยังไม่ลงลึกในรายละเอียดเรื่องของคดี แต่ทูตก็ได้แสดงความกังวลบ้างเล็กน้อย เนื่องจากเป็นแรงกดดันภายในประเทศตามที่รัฐมนตรีอังกฤษแสดงความกังวลเกี่ยวกับข่าวการทรมานผู้ต้องหา แต่ทูตอังกฤษก็รู้สึกดีที่ กสม.เข้ามาทำงานในคดีนี้ เพราะถือว่าจะได้ข้อมูลอีกชุดหนึ่ง ซึ่งต่างจากข้อมูลของตำรวจ อีกทั้งการทำงาน กสม.จะแยกกับหน่วยงานของตำรวจอย่างเด็ดขาด
ขณะที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้บอกกับเอกอัครราชทูตสหราชอณาจักรว่า การทำงานของกรรมการสิทธิมนุษยชนได้มีการแบ่งงานกันทำกับตำรวจอย่างชัดเจน
