ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(8ต.ค.) พุ่งขึ้นแรง หลังรายงานการประชุมเฟด minutes ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางอเมริกาแห่งนี้จะยังคงนโยบายทางการเงินตามเดิม
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 274.83 จุด (1.64 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,994.22 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 33.79 จุด (1.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,968.89 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 83.39 จุด (1.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,468.59 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ทะยานขึ้นแข็งแกร่งในรอบหลายเดือน หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ซึ่งระบุว่า "สัญญาณชี้นำล่วงหน้าของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น นั้น จะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจในปัจจุบัน และยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นหลังจากโครงการซื้อสินทรัพย์สิ้นสุดลง"
ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (8 ตุลาคม 2557) ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.9% ปิดที่ 328 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 8,995.33 จุด ลดลง 90.88 จุด, -1.00% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,168.12 จุด ลดลง 41.02 จุด, -0.97% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,482.24 จุด ลดลง 13.34 จุด, -0.21%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปยังคงซบเซา เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2557 สู่ระดับ 3.3% และปี 2558 สู่ระดับ 3.8% ซึ่งลดลง 0.1% และ 0.2% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค. ตามลำดับ โดยไอเอ็มเอฟให้เหตุผลถึงการปรับลดคาดการณ์ว่า เป็นเพราะความอ่อนแอในยูโรโซน และการชะลอตัวในตลาดเกิดใหม่หลักๆหลายแห่ง
รายงานดังกล่าวทำให้ตลาดคลายความวิตกกังวล และต่างก็คาดการณ์ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาในปัจจุบัน นอกจากนี้ กรรมการเฟดบางคนยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงช่วงขาลงของเศรษฐกิจ และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ที่อาจจะทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐเคลื่อนไหวสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 274.83 จุด (1.64 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,994.22 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 33.79 จุด (1.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,968.89 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 83.39 จุด (1.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,468.59 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ทะยานขึ้นแข็งแกร่งในรอบหลายเดือน หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ซึ่งระบุว่า "สัญญาณชี้นำล่วงหน้าของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น นั้น จะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจในปัจจุบัน และยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นหลังจากโครงการซื้อสินทรัพย์สิ้นสุดลง"
ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (8 ตุลาคม 2557) ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.9% ปิดที่ 328 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 8,995.33 จุด ลดลง 90.88 จุด, -1.00% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,168.12 จุด ลดลง 41.02 จุด, -0.97% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,482.24 จุด ลดลง 13.34 จุด, -0.21%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปยังคงซบเซา เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2557 สู่ระดับ 3.3% และปี 2558 สู่ระดับ 3.8% ซึ่งลดลง 0.1% และ 0.2% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค. ตามลำดับ โดยไอเอ็มเอฟให้เหตุผลถึงการปรับลดคาดการณ์ว่า เป็นเพราะความอ่อนแอในยูโรโซน และการชะลอตัวในตลาดเกิดใหม่หลักๆหลายแห่ง
รายงานดังกล่าวทำให้ตลาดคลายความวิตกกังวล และต่างก็คาดการณ์ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาในปัจจุบัน นอกจากนี้ กรรมการเฟดบางคนยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงช่วงขาลงของเศรษฐกิจ และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ที่อาจจะทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐเคลื่อนไหวสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%