นายวัฒนา พัทรชนม์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพัฒนา ระบบใบอนุญาตขับรถโดยกาหนดหลักเกณฑ์การตรวจสุขภาพในใบรับรองแพทย์สาหรับผู้ขอรับและต่ออายุใบอนุญาตว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณากาหนดหลักเกณฑ์การตรวจสุขภาพเพื่อออกใบรับรองแพทย์สาหรับผู้ขอรับและต่ออายุใบอนุญาตขับรถ เมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบให้กาหนดกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย จากการขับรถไว้ 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ป่วยโรคลมชักที่ยังควบคุมอาการไม่ได้ ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดทางสมอง ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่รักษาด้วยยาฉีดอินซูลิน และผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายหรือผ่านการผ่าตัดหัวใจหรือขยาย เส้นเลือดหัวใจ ซึ่งแพทย์ได้วินิจฉัยแล้วว่าเป็นความเจ็บป่วยที่เป็นอุปสรรคต่อการขับรถ ยกเว้นผู้ที่ได้รับการอนุญาตจากแพทย์ (ทั้ง 4 กลุ่ม)
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้ตัดโรคเท้าช้าง โรคเรื้อน และวัณโรคออกจากใบรับรองแพทย์ เพราะเป็นโรคที่สามารถตรวจวินิจฉัยได้จากการมองเห็นในเบื้องต้น และปัจจุบันวิวัฒนาการทางการแพทย์ในการตรวจรักษาพัฒนาขึ้นมาก ทำให้โรคดังกล่าวไม่เป็นอุปสรรคต่อการขับรถอีกต่อไป ส่วนในกรณีของผู้ป่วยด้วยวิกลจริต จิตฟั่นเฟือน การติดยาเสพติดให้โทษและอาการของโรคพิษสุราเรื้อรังนั้น ในระยะแรกยังให้คงไว้ในใบรับรองแพทย์ก่อน โดยแพทยสภาจะประกาศกำหนดรูปแบบใบรับรองแพทย์ตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะเร่งปรับแก้ไขกฎระเบียบและออกประกาศบังคับใช้ต่อไป และในระยะต่อไปกรมการขนส่งทางบกและแพทยสภาจะร่วมกันหาข้อสรุปในกรณีผู้ป่วยด้วยวิกลจริต จิตฟั่นเฟือนในระดับอาการต่างๆ รวมทั้งกรณีผู้ขับรถสูงอายุ และโรคติดต่อร้ายแรงที่มีผลกระทบต่อการขนส่งผู้โดยสารสาธารณะเพื่อกาหนดหลักเกณฑ์เพิ่มขึ้นในใบรับรองแพทย์ด้วย
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ใบรับรองแพทย์ที่ใช้ประกอบการขอรับและต่อใบอนุญาตขับรถนั้นส่วนหนึ่งจะกำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถต้องรับรองประวัติการเจ็บป่วยและการรักษา ของตนเอง ซึ่งหากผู้ขอรับใบอนุญาตให้ข้อมูลเท็จจะถือเป็นความผิดโดยมีบทลงโทษตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด และอีกส่วนหนึ่งแพทย์ผู้ตรวจต้องซักประวัติเพิ่มเติมและตรวจร่างกายเบื้องต้นก่อนออกใบรับรองแพทย์ให้ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกและแพทยสภาจะจัดสัมมนาแพทย์ทั่วประเทศพร้อมแจกคู่มือแพทย์ประกอบการตรวจวินิจฉัยการออกใบรับรองแพทย์สำหรับผู้ขอรับและต่ออายุใบอนุญาตขับรถ เพื่อให้แพทย์ผู้ตรวจใช้ปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน ทั้งนี้ หากแพทย์ผู้ตรวจพบหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการป่วยที่มีความเสี่ยงของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถจะกาหนดให้เข้ารับการตรวจสุขภาพเพิ่มเติม หรือในกรณีที่พบโรคหรืออาการของโรคที่แตกต่างจากที่แพทยสภากาหนด กรมการขนส่งทางบกและแพทยสภาจะตั้งคณะกรรมการแพทย์ร่วมกันเพื่อพิจารณากาหนดโรคและระดับอาการของโรคเพิ่มเติม เพื่อคัดกรองผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถให้ครอบคลุมเฉพาะผู้ที่มีสภาพร่างกายและจิตใจที่พร้อมต่อการขับรถอย่างปลอดภัยเท่านั้น
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวอีกว่า การปรับปรุงใบรับรองแพทย์ตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะไม่สร้างความยุ่งยากให้กับประชาชนโดยทั่วไป แต่จะช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดจากผู้ป่วยที่มีโรคและระดับอาการของโรคที่อาจเป็นอันตรายในขณะขับรถ โดยส่งเสริมให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้ตระหนักถึงอันตรายของโรคที่เป็นอยู่และไม่สนับสนุนให้ผู้ป่วยขับรถในขณะที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์หรือในช่วงที่แพทย์ไม่อนุญาตให้ขับรถอย่างจริงจัง ซึ่งมาตรการทั้งหมดนี้ทาเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับรถเองและผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้ตัดโรคเท้าช้าง โรคเรื้อน และวัณโรคออกจากใบรับรองแพทย์ เพราะเป็นโรคที่สามารถตรวจวินิจฉัยได้จากการมองเห็นในเบื้องต้น และปัจจุบันวิวัฒนาการทางการแพทย์ในการตรวจรักษาพัฒนาขึ้นมาก ทำให้โรคดังกล่าวไม่เป็นอุปสรรคต่อการขับรถอีกต่อไป ส่วนในกรณีของผู้ป่วยด้วยวิกลจริต จิตฟั่นเฟือน การติดยาเสพติดให้โทษและอาการของโรคพิษสุราเรื้อรังนั้น ในระยะแรกยังให้คงไว้ในใบรับรองแพทย์ก่อน โดยแพทยสภาจะประกาศกำหนดรูปแบบใบรับรองแพทย์ตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะเร่งปรับแก้ไขกฎระเบียบและออกประกาศบังคับใช้ต่อไป และในระยะต่อไปกรมการขนส่งทางบกและแพทยสภาจะร่วมกันหาข้อสรุปในกรณีผู้ป่วยด้วยวิกลจริต จิตฟั่นเฟือนในระดับอาการต่างๆ รวมทั้งกรณีผู้ขับรถสูงอายุ และโรคติดต่อร้ายแรงที่มีผลกระทบต่อการขนส่งผู้โดยสารสาธารณะเพื่อกาหนดหลักเกณฑ์เพิ่มขึ้นในใบรับรองแพทย์ด้วย
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ใบรับรองแพทย์ที่ใช้ประกอบการขอรับและต่อใบอนุญาตขับรถนั้นส่วนหนึ่งจะกำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถต้องรับรองประวัติการเจ็บป่วยและการรักษา ของตนเอง ซึ่งหากผู้ขอรับใบอนุญาตให้ข้อมูลเท็จจะถือเป็นความผิดโดยมีบทลงโทษตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด และอีกส่วนหนึ่งแพทย์ผู้ตรวจต้องซักประวัติเพิ่มเติมและตรวจร่างกายเบื้องต้นก่อนออกใบรับรองแพทย์ให้ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกและแพทยสภาจะจัดสัมมนาแพทย์ทั่วประเทศพร้อมแจกคู่มือแพทย์ประกอบการตรวจวินิจฉัยการออกใบรับรองแพทย์สำหรับผู้ขอรับและต่ออายุใบอนุญาตขับรถ เพื่อให้แพทย์ผู้ตรวจใช้ปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน ทั้งนี้ หากแพทย์ผู้ตรวจพบหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการป่วยที่มีความเสี่ยงของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถจะกาหนดให้เข้ารับการตรวจสุขภาพเพิ่มเติม หรือในกรณีที่พบโรคหรืออาการของโรคที่แตกต่างจากที่แพทยสภากาหนด กรมการขนส่งทางบกและแพทยสภาจะตั้งคณะกรรมการแพทย์ร่วมกันเพื่อพิจารณากาหนดโรคและระดับอาการของโรคเพิ่มเติม เพื่อคัดกรองผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถให้ครอบคลุมเฉพาะผู้ที่มีสภาพร่างกายและจิตใจที่พร้อมต่อการขับรถอย่างปลอดภัยเท่านั้น
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวอีกว่า การปรับปรุงใบรับรองแพทย์ตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะไม่สร้างความยุ่งยากให้กับประชาชนโดยทั่วไป แต่จะช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดจากผู้ป่วยที่มีโรคและระดับอาการของโรคที่อาจเป็นอันตรายในขณะขับรถ โดยส่งเสริมให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้ตระหนักถึงอันตรายของโรคที่เป็นอยู่และไม่สนับสนุนให้ผู้ป่วยขับรถในขณะที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์หรือในช่วงที่แพทย์ไม่อนุญาตให้ขับรถอย่างจริงจัง ซึ่งมาตรการทั้งหมดนี้ทาเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับรถเองและผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน