ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(30ก.ย.) แสดงความยินดีหลังอัฟกานิสถานและอเมริกา ลงนามในข้อตกลงเปิดทางให้อมริกาคงทหารราว 10,000 คนอยู่ในอัฟกันต่อไปในปีหน้า ชี้เป็นวันประวัติศาสตร์ในความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติ
ฮามิด คาร์ไซ ที่เพิ่งลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันจันทร์(29ก.ย.) ปฏิเสธลงนามในข้อตกลงดังกล่าว ความไม่ลงรอยอันเป็นสัญลักษณ์แสดงแห่งความสัมพันธ์ที่หยุดชะงักระหว่างอัฟกานิสถานและสหรัฐฯ ทั้งที่ผู้นำรายนี้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ภายใต้แรงสนับสนุนของวอชิงตันที่ช่วยโค่นอำนาจตอลิบานเมื่อปี 2001
ฮานิฟ อัตมาร์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติอัฟกันและเจมส์ คันนิงแฮม เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ลงนามในข้อตกลงความมั่นคงทวิภาคี (BSA) ณ พิธีซึ่งจัดขึ้นที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคาบูล โดยมีประธานาธิบดีอัชราฟ กานี เป็นสักขีพยาน
"เราลงนามในข้อตกลงซึ่งเป็นเรื่องดีต่อประชาชนของเรา เป็นเรื่องดีต่อเสถียรภาพของภูมิภาคและของโลก"กานี กล่าว พร้อมบอกว่าข้อตกลงนี้ยังจะเป็นการเปิดทางให้สหรัฐฯสนับสนุนทางการเงินแก่กองกำลังความมั่นคงอัฟกันที่มีอยู่กว่า 350,000 นาย "ภัยคุกคามผลประโยชน์ร่วมของเรายังคงมีอยู่ และนี่ทำให้เราต้องมีเป้าหมายร่วมกัน" นายกานีกล่าว หลังประสบความสำเร็จตามความตั้งใจที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะลงนามในข้อตกลงดังกล่าวในวันแรกของการดำรงตำแหน่ง
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ก็แสดงความยินดีต่อการลงนามครั้งนี้เช่นกัน โดยบอกว่ามันเป็นวันประวัติศาสตร์ในความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันและอัฟกานิสถาน พร้อมระบุข้อตกลงดังกล่าวได้มอบกรอบทางกฎหมายที่จำเป็นสำหรับ 2 ภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่งหลังปี 2014 ได้แก่จัดการกับพวกอัลกออิดะห์ที่เหลือ รวมถึงฝึกฝน ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือกองกำลังความมั่นคงแห่งชาติอัฟกัน
ฮามิด คาร์ไซ ที่เพิ่งลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันจันทร์(29ก.ย.) ปฏิเสธลงนามในข้อตกลงดังกล่าว ความไม่ลงรอยอันเป็นสัญลักษณ์แสดงแห่งความสัมพันธ์ที่หยุดชะงักระหว่างอัฟกานิสถานและสหรัฐฯ ทั้งที่ผู้นำรายนี้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ภายใต้แรงสนับสนุนของวอชิงตันที่ช่วยโค่นอำนาจตอลิบานเมื่อปี 2001
ฮานิฟ อัตมาร์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติอัฟกันและเจมส์ คันนิงแฮม เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ลงนามในข้อตกลงความมั่นคงทวิภาคี (BSA) ณ พิธีซึ่งจัดขึ้นที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคาบูล โดยมีประธานาธิบดีอัชราฟ กานี เป็นสักขีพยาน
"เราลงนามในข้อตกลงซึ่งเป็นเรื่องดีต่อประชาชนของเรา เป็นเรื่องดีต่อเสถียรภาพของภูมิภาคและของโลก"กานี กล่าว พร้อมบอกว่าข้อตกลงนี้ยังจะเป็นการเปิดทางให้สหรัฐฯสนับสนุนทางการเงินแก่กองกำลังความมั่นคงอัฟกันที่มีอยู่กว่า 350,000 นาย "ภัยคุกคามผลประโยชน์ร่วมของเรายังคงมีอยู่ และนี่ทำให้เราต้องมีเป้าหมายร่วมกัน" นายกานีกล่าว หลังประสบความสำเร็จตามความตั้งใจที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะลงนามในข้อตกลงดังกล่าวในวันแรกของการดำรงตำแหน่ง
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ก็แสดงความยินดีต่อการลงนามครั้งนี้เช่นกัน โดยบอกว่ามันเป็นวันประวัติศาสตร์ในความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันและอัฟกานิสถาน พร้อมระบุข้อตกลงดังกล่าวได้มอบกรอบทางกฎหมายที่จำเป็นสำหรับ 2 ภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่งหลังปี 2014 ได้แก่จัดการกับพวกอัลกออิดะห์ที่เหลือ รวมถึงฝึกฝน ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือกองกำลังความมั่นคงแห่งชาติอัฟกัน
