ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ศูนย์บริการข้อมูลน้ำเคลื่อนที่ในภาวะฉุกเฉิน จัดทำโดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ซึ่งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชีย ประจำการ ณ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมีลักษณะเป็นรถต่อพ่วงขนาดใหญ่ที่สามารถเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้ เพื่อประมวลผลสถานการณ์น้ำในพื้นที่น้ำท่วมได้ทุกสภาพ ทั้งบนบกและในน้ำ โดยใช้ระบบการสื่อสารด้วยระบบดาวเทียม
สำหรับศูนย์บริการข้อมูลน้ำเคลื่อนที่ในภาวะฉุกเฉิน ประกอบด้วยรถพ่วง 4 ส่วน คือ รถหัวลากขนาดใหญ่ ห้องปฏิบัติการระบบคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง รองรับข้อมูลได้กว่า 30 เทราไบต์ หรือเทียบเท่ากับดีวีดี (DVD) 6,500 แผ่น ตู้ระบบหล่อเย็นคอมพิวเตอร์ ตู้ไฟสำรอง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เทียบเท่าระบบของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หากไฟดับสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง ระบบมีระบบดับเพลิงอัตโนมัติ
นอกจากนี้ ยังสามารถสำรวจข้อมูลภาคสนามเพิ่มเติม เพื่อให้การประมวลผลสถานการณ์น้ำแม่นยำขึ้น โดยมีชุดสำรวจเคลื่อนที่เร็วทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ทั้งรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ 6 คัน ลุยน้ำได้สูง 80 เซนติเมตร ติดตั้งระบบโมบายล์แมปปิงซิสเต็ม (Mobile Mapping System) เพื่อวัดระดับความสูงของถนน เรือตรวจการณ์ 1 ลำ ติดตั้งอุปกรณ์วัดความลึกท้องน้ำด้วยคลื่นเสียง พร้อมระบบ GPS ประมวลผลอัตโนมัติ และเครื่องบินสำรวจอัตโนมัติขนาดเล็ก ติดตั้งกล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่ง มั่นใจว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถปฏิบัติการเพื่อรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ และในอนาคตได้เป็นอย่างดี
สำหรับศูนย์บริการข้อมูลน้ำเคลื่อนที่ในภาวะฉุกเฉิน ประกอบด้วยรถพ่วง 4 ส่วน คือ รถหัวลากขนาดใหญ่ ห้องปฏิบัติการระบบคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง รองรับข้อมูลได้กว่า 30 เทราไบต์ หรือเทียบเท่ากับดีวีดี (DVD) 6,500 แผ่น ตู้ระบบหล่อเย็นคอมพิวเตอร์ ตู้ไฟสำรอง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เทียบเท่าระบบของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หากไฟดับสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง ระบบมีระบบดับเพลิงอัตโนมัติ
นอกจากนี้ ยังสามารถสำรวจข้อมูลภาคสนามเพิ่มเติม เพื่อให้การประมวลผลสถานการณ์น้ำแม่นยำขึ้น โดยมีชุดสำรวจเคลื่อนที่เร็วทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ทั้งรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ 6 คัน ลุยน้ำได้สูง 80 เซนติเมตร ติดตั้งระบบโมบายล์แมปปิงซิสเต็ม (Mobile Mapping System) เพื่อวัดระดับความสูงของถนน เรือตรวจการณ์ 1 ลำ ติดตั้งอุปกรณ์วัดความลึกท้องน้ำด้วยคลื่นเสียง พร้อมระบบ GPS ประมวลผลอัตโนมัติ และเครื่องบินสำรวจอัตโนมัติขนาดเล็ก ติดตั้งกล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่ง มั่นใจว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถปฏิบัติการเพื่อรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ และในอนาคตได้เป็นอย่างดี
