นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกระบวนการการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายให้เหลือ 250 คน ว่า ขอเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการสรรหา สปช.ในบางจังหวัด เพราะยังไม่มีความโปร่งใสและมีการล็อกสเปกจากกรรมการสรรหาในบางจังหวัด ซึ่งตนก็ได้รับทราบข้อมูลว่ามีปัญหานี้เกิดขึ้นจริง เช่น กรณีที่ จ.สุรินทร์ และพัทลุง อาจมีการล็อกสเปก แม้ว่าองค์ประกอบในกรรมการสรรหาจะมีฝ่ายตุลาการอยู่ด้วย แต่ก็เป็นเพียงแค่เสียงข้างน้อย ทำให้รายชื่อที่ได้รับการเสนอไปถึง คสช.ถูกล็อกให้เป็นคนที่กรรมการสรรหาส่วนใหญ่ในจังหวัดนั้นๆ ต้องการให้เป็น สปช.เท่านั้น จึงอยากให้มีการแก้ปัญหา ไม่เช่นนั้นอาจจะกระทบต่อภาพรวมในการตั้ง สปช.ได้ ทั้งๆ ที่ในส่วนกลาง 11 ด้านไม่มีปัญหาเรื่องความโปร่งใส
นอกจากนี้ การกำหนดให้มีการปกปิดรายชื่อที่ได้รับการสรรหาเสนอต่อ คสช.เป็นความลับนั้น ก็มีจุดอ่อน ทำให้ประชาชนไม่มีโอกาสได้ตรวจสอบว่ากรรมการสรรหาทำหน้าที่อย่างโปร่งใสหรือไม่ ซึ่งหาก คสช.มีการตรวจสอบเรื่องนี้และพบว่าในจังหวัดใดที่มีปัญหาก็อาจจะระงับการเลือก สปช.ในจังหวัดนั้นไปก่อน เพราะตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่า ให้ตั้ง สปช.ไม่เกิน 250 คน หากจังหวัดใดมีปัญหาก็ยังไม่ต้องตั้ง โดยควรแก้ไขให้เกิดความโปร่งใสก่อน ซึ่งมีตัวอย่างการตั้ง สนช.ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ตั้งจำนวน 220 คน แต่ปัจจุบันก็มีไม่ครบตามจำนวนดังกล่าวมีเพียงแค่ 192 คนเท่านั้น
นอกจากนี้ การกำหนดให้มีการปกปิดรายชื่อที่ได้รับการสรรหาเสนอต่อ คสช.เป็นความลับนั้น ก็มีจุดอ่อน ทำให้ประชาชนไม่มีโอกาสได้ตรวจสอบว่ากรรมการสรรหาทำหน้าที่อย่างโปร่งใสหรือไม่ ซึ่งหาก คสช.มีการตรวจสอบเรื่องนี้และพบว่าในจังหวัดใดที่มีปัญหาก็อาจจะระงับการเลือก สปช.ในจังหวัดนั้นไปก่อน เพราะตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่า ให้ตั้ง สปช.ไม่เกิน 250 คน หากจังหวัดใดมีปัญหาก็ยังไม่ต้องตั้ง โดยควรแก้ไขให้เกิดความโปร่งใสก่อน ซึ่งมีตัวอย่างการตั้ง สนช.ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ตั้งจำนวน 220 คน แต่ปัจจุบันก็มีไม่ครบตามจำนวนดังกล่าวมีเพียงแค่ 192 คนเท่านั้น