พ.จ.อ.ปัญญา สระทองอุ่น รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยภายหลังการประชุมวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกับ 16 อำเภอ ทางเว็บคอนเฟอเรนซ์ ว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำในขณะนี้ จำเป็นต้องจับตามองแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และปริมาณน้ำฝน เนื่องจากจะมีพายุโซนร้อนเข้ามายังประเทศไทยอีกระลอกหนึ่ง ว่าจะมีผลกระทบมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะที่อำเภอผักไห่ เสนา และบางบาล เกิดน้ำล้นตลิ่ง น้ำไหลเข้าท่วมใต้ถุนบ้าน ซึ่งเป็นภาวะปกติ ที่ 3 อำเภอดังกล่าว จะได้รับผลกระทบเป็นประจำทุกปี แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้กำชับให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม จากการขึ้นเฮลิคอปเตอร์กับหน่วยบริการฝนหลวงในวันนี้ (11 ก.ย.) ยังพบว่าปริมาณน้ำในพื้นที่ยังไม่น่าวิตก โดยอำเภอเสนา ผักไห่ และบางบาล น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 1,000 หลังคาเรือน เนื่องจากคลองโผงเผงหรือคลองบางหลวงมีลักษณะเอียงราบลุ่มและอยู่ริมแม่น้ำน้อย ฝนตกมากก็จะท่วมน้ำมาก็จะท่วมถือว่าเป็นภาวะปกติของชาว 3 อำเภอ ไม่จำเป็นต้องประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินหรือภัยพิบัติแต่อย่างใด
พ.จ.อ.ปัญญา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กำลังติดตามสถานการณ์น้ำที่ไหลจากต้นน้ำ จากจังหวัด เลย เพชรบูรณ์ และชัยภูมิ ไหลลงสู่แม่น้ำป่าสัก ล่าสุด ได้ไหลเข้าเขื่อนในอัตราพอสมควร จากที่เคยปล่อยอยู่ที่ 8-10 ลูกบาศก์เมตร ขณะนี้ปล่อยถึง 70-80 ลูกบาศก์เมตร
อย่างไรก็ตาม จากการขึ้นเฮลิคอปเตอร์กับหน่วยบริการฝนหลวงในวันนี้ (11 ก.ย.) ยังพบว่าปริมาณน้ำในพื้นที่ยังไม่น่าวิตก โดยอำเภอเสนา ผักไห่ และบางบาล น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 1,000 หลังคาเรือน เนื่องจากคลองโผงเผงหรือคลองบางหลวงมีลักษณะเอียงราบลุ่มและอยู่ริมแม่น้ำน้อย ฝนตกมากก็จะท่วมน้ำมาก็จะท่วมถือว่าเป็นภาวะปกติของชาว 3 อำเภอ ไม่จำเป็นต้องประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินหรือภัยพิบัติแต่อย่างใด
พ.จ.อ.ปัญญา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กำลังติดตามสถานการณ์น้ำที่ไหลจากต้นน้ำ จากจังหวัด เลย เพชรบูรณ์ และชัยภูมิ ไหลลงสู่แม่น้ำป่าสัก ล่าสุด ได้ไหลเข้าเขื่อนในอัตราพอสมควร จากที่เคยปล่อยอยู่ที่ 8-10 ลูกบาศก์เมตร ขณะนี้ปล่อยถึง 70-80 ลูกบาศก์เมตร
