นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยในลุ่มน้ำยม อยู่ในระดับสูงสุดแล้ววันนี้ ที่ อ.ศรีสัญชนาลัย จ.สุโขทัย ในปริมาณ 1,411 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยพยายามผันน้ำไม่ให้ไปเพิ่มปริมาณน้ำที่ท่วมตัวเมืองสุโขทัย ซึ่งได้ดึงน้ำออกไปทางคลองหกบาท ลงลุ่มน้ำยมเก่า และลงแม่น้ำน่าน คาดว่าในวันที่ 10 กันยายนนี้ สถานการณ์อุทกภัยใน จ.สุโขทัย จะเริ่มทรงตัว และภายในหนึ่งสัปดาห์ปริมาณน้ำจะลงไม่เอ่อล้นตลิ่ง เพราะมวลน้ำเหนือบางส่วนได้ไหลบ่าจากตัวเมืองสุโขทัย ไปเข้าท่วม อ.ศรีสำโรง แล้ว รวมทั้งกรมชลประทาน ได้พยายามผันน้ำเหนือทั้งหมดเข้าทุ่งบางระกำ เป็นแก้มลิงรองรับน้ำก้อนนี้ไว้ได้
สำหรับปริมาณน้ำเหนือก้อนที่สอง ที่ อ.สอง จ.แพร่ มีปริมาณ 863 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที ไหลบ่ามาลงที่ลุ่มน้ำยม จะใช้เวลาเดินทางสองวันมาถึง จ.สุโขทัย คาดว่าจะไม่กระทบกับตัวเมืองสุโขทัยมากนัก เพราะได้ผันน้ำเหนือก้อนแรกมาลงทุ่งบางระกำแล้ว รวมทั้งแม่น้ำน่านในขณะนี้มีปริมาณ 835 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที และแม่น้ำปิง มีปริมาณเพียง 360 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที โดยขณะนี้มีปริมาณน้ำที่ จ.นครสวรรค์ อยู่ที่ 1,232 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที และส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ จ.อ่างทอง ที่ อ.ป่าโมก จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ อ.เสนา อ.บางบาล อ.บางไทร อ.ลาดบังหลวง อ.บางซ้าย ซึ่งได้แจ้งเตือนประชาชนที่บ้านเรือนริมน้ำและนอกคันกั้นน้ำของชลประทาน เก็บข้าวของไว้ที่สูง
รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวเตือนด้วยว่า กรมชลประทานและกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประเมินร่วมกันถึงร่องมรสุมพาดผ่านทางตอนเหนือ และกำลังเคลื่อนลงสู่ภาคกลางบวกกับหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้เกิดฝนตกชุกต่อไป แต่คาดว่าไม่มากเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ฝนตกในพื้นที่ภาคกลางทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้นด้วย ต้องเฝ้าระวังไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ประชาชนที่อยู่ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ต้องเฝ้าระวังปริมาณเพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยเฉพาะท่วมซ้ำซาก และพื้นที่ลุ่มต่ำ ในส่วนของกรุงเทพฯ ยังไม่น่ากังวล เพราะปริมาณน้ำเหนือจะส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ ในช่วงเดือนตุลาคม
สำหรับปริมาณน้ำเหนือก้อนที่สอง ที่ อ.สอง จ.แพร่ มีปริมาณ 863 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที ไหลบ่ามาลงที่ลุ่มน้ำยม จะใช้เวลาเดินทางสองวันมาถึง จ.สุโขทัย คาดว่าจะไม่กระทบกับตัวเมืองสุโขทัยมากนัก เพราะได้ผันน้ำเหนือก้อนแรกมาลงทุ่งบางระกำแล้ว รวมทั้งแม่น้ำน่านในขณะนี้มีปริมาณ 835 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที และแม่น้ำปิง มีปริมาณเพียง 360 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที โดยขณะนี้มีปริมาณน้ำที่ จ.นครสวรรค์ อยู่ที่ 1,232 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที และส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ จ.อ่างทอง ที่ อ.ป่าโมก จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ อ.เสนา อ.บางบาล อ.บางไทร อ.ลาดบังหลวง อ.บางซ้าย ซึ่งได้แจ้งเตือนประชาชนที่บ้านเรือนริมน้ำและนอกคันกั้นน้ำของชลประทาน เก็บข้าวของไว้ที่สูง
รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวเตือนด้วยว่า กรมชลประทานและกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประเมินร่วมกันถึงร่องมรสุมพาดผ่านทางตอนเหนือ และกำลังเคลื่อนลงสู่ภาคกลางบวกกับหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้เกิดฝนตกชุกต่อไป แต่คาดว่าไม่มากเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ฝนตกในพื้นที่ภาคกลางทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้นด้วย ต้องเฝ้าระวังไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ประชาชนที่อยู่ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ต้องเฝ้าระวังปริมาณเพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยเฉพาะท่วมซ้ำซาก และพื้นที่ลุ่มต่ำ ในส่วนของกรุงเทพฯ ยังไม่น่ากังวล เพราะปริมาณน้ำเหนือจะส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ ในช่วงเดือนตุลาคม
