ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนสิงหาคม 57 อยู่ที่ 80.1 เพิ่มขึ้นจาก 78.2 ในเดือนกรกฎาคม 57 ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 70.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเช่นกัน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำ อยู่ที่ 73.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 96.4
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้นทุกรายการ และเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน เนื่องจากมั่นใจสถานการณ์ทางการเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้นและเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวขึ้นในอนาคตอันใกล้
ปัจจัยบวกสำคัญ ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 และมีการตั้งคณะรัฐมนตรีเข้ามาบริหารประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ0 2 โดยระบุว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนยังจำเป็นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์ฯ) คาดการณ์ GDP ปี 58 โตร้อยละ 3.5-4.5 และ เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 57 เหลือร้อยละ 1.5-2 การส่งออกเดือนกรกฎาคม หดตัวร้อยละ 0.9 ราคาพืชผลการเกษตรยังทรงตัวในระดับต่ำ ผู้บริโภคกังวลปัญหาค่าครองชีพ รวมทั้งราคาสินค้าที่ยังทรงตัวในระดับสูง และความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้นทุกรายการ และเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน เนื่องจากมั่นใจสถานการณ์ทางการเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้นและเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวขึ้นในอนาคตอันใกล้
ปัจจัยบวกสำคัญ ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 และมีการตั้งคณะรัฐมนตรีเข้ามาบริหารประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ0 2 โดยระบุว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนยังจำเป็นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์ฯ) คาดการณ์ GDP ปี 58 โตร้อยละ 3.5-4.5 และ เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 57 เหลือร้อยละ 1.5-2 การส่งออกเดือนกรกฎาคม หดตัวร้อยละ 0.9 ราคาพืชผลการเกษตรยังทรงตัวในระดับต่ำ ผู้บริโภคกังวลปัญหาค่าครองชีพ รวมทั้งราคาสินค้าที่ยังทรงตัวในระดับสูง และความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
