อังกฤษยกระดับภัยคุกคามก่อการร้ายสู่ขั้น "รุนแรง" ในวันศุกร์(29) สืบเนื่องจากสถานการณ์ในอิรักและซีเรีย ด้วยความกังวลว่าพวกหัวรุนแรงที่ถือพาสปอร์ตแดนผู้ดีที่ออกไปสู้รบใน 2 ชาติตะวันออกกลางข้างต้น อาจกลับเข้ามาก่อเหตุร้ายภายในประเทศ ตามหลังการเผยแพร่วิดีโอสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) พูดสำเนียงอังกฤษ ฆ่าตัดหัวผู้สื่อข่าวอเมริกา อย่างไรก็ตามในส่วนของวอชิงตันยืนยันยังไม่มีแผนยกระดับเตือนภัยก่อการร้ายในเวลานี้
ความเคลื่อนไหวยกระดับเตือนภัยก่อการร้ายครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากเจมส์ โฟลีย์ ผู้สื่อข่าวสหรัฐฯ ถูกประหารชีวิตด้วยการฆ่าตัดคอโดยเพชฌฆาตสมาชิกกลุ่มนักรบญิฮัดไอเอสที่พูดสำเนียงอังกฤษ โดยแม้ว่าไม่มีข้อมูลข่าวกรองใดๆบ่งชี้ว่าการโจมตีใกล้เข้ามาแล้ว แต่นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีบอกว่าในความคิดของเขาไม่มีความสงสัยเลยว่าพวกไอเอสได้เล็งเป้าหมายต่างๆในยุโรปไว้แล้ว
นายกรัฐมนตรีอังกฤษยกระดับการเตือนภัยการก่อร้ายสู่ขั้นสูงสุดลำดับ 2 จากทั้งหมด 5 ขั้น ถือเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2011 ขณะที่เขาเผยว่าจะแถลงต่อรัฐสภาในวันจันทร์หน้า ต่อแผนออกกฎหมายใหม่สำหับปราบปรามคนอังกฤษที่ต้องการเป็นนักรบญิฮัด ในนั้นรวมถึงผ่อนคลายกฎระเบียบให้สามารถยึดพาสปอร์ตบุคคลต้องสงสัยประสงค์เดินทางไปสู้รบในอิรักและซีเรียได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับบุคคลต้องสงสัยที่เดินทางกลับจาก 2 ประเทศดังกล่าว
แม้รัฐบาลอังกฤษจะมีความกังวลอย่างมากต่อภัยคุกคามจากพวกนักรบ แต่สหรัฐฯชาติพันธมิตรสำคัญ โดยทำเนียขาวออกมาแถลงหลังจากนั้นในวันศุกร์(29) ว่าพวกเขายังไม่มีแผนยกระดับเตือนภัยก่อการร้ายใดๆ
ขณะที่ในส่วนของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิก็ชี้แจงว่าสหรัฐฯ ยังไม่มีข้อมูลใดๆเกี่ยวกับภัยคุกคามของพวกนักรบรัฐอิสลามต่อผืนแผ่นดินอเมริกา อย่างไรก็ตามพวกเขาเตือนว่าพวกนักรบไอเอสและเหล่าผู้สนับสนุน แสดงให้เห็นถึงเจตนาและความสามารถในการเล่นงานพลเมืองสหรัฐฯในต่างแดน
ความเคลื่อนไหวยกระดับเตือนภัยก่อการร้ายครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากเจมส์ โฟลีย์ ผู้สื่อข่าวสหรัฐฯ ถูกประหารชีวิตด้วยการฆ่าตัดคอโดยเพชฌฆาตสมาชิกกลุ่มนักรบญิฮัดไอเอสที่พูดสำเนียงอังกฤษ โดยแม้ว่าไม่มีข้อมูลข่าวกรองใดๆบ่งชี้ว่าการโจมตีใกล้เข้ามาแล้ว แต่นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีบอกว่าในความคิดของเขาไม่มีความสงสัยเลยว่าพวกไอเอสได้เล็งเป้าหมายต่างๆในยุโรปไว้แล้ว
นายกรัฐมนตรีอังกฤษยกระดับการเตือนภัยการก่อร้ายสู่ขั้นสูงสุดลำดับ 2 จากทั้งหมด 5 ขั้น ถือเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2011 ขณะที่เขาเผยว่าจะแถลงต่อรัฐสภาในวันจันทร์หน้า ต่อแผนออกกฎหมายใหม่สำหับปราบปรามคนอังกฤษที่ต้องการเป็นนักรบญิฮัด ในนั้นรวมถึงผ่อนคลายกฎระเบียบให้สามารถยึดพาสปอร์ตบุคคลต้องสงสัยประสงค์เดินทางไปสู้รบในอิรักและซีเรียได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับบุคคลต้องสงสัยที่เดินทางกลับจาก 2 ประเทศดังกล่าว
แม้รัฐบาลอังกฤษจะมีความกังวลอย่างมากต่อภัยคุกคามจากพวกนักรบ แต่สหรัฐฯชาติพันธมิตรสำคัญ โดยทำเนียขาวออกมาแถลงหลังจากนั้นในวันศุกร์(29) ว่าพวกเขายังไม่มีแผนยกระดับเตือนภัยก่อการร้ายใดๆ
ขณะที่ในส่วนของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิก็ชี้แจงว่าสหรัฐฯ ยังไม่มีข้อมูลใดๆเกี่ยวกับภัยคุกคามของพวกนักรบรัฐอิสลามต่อผืนแผ่นดินอเมริกา อย่างไรก็ตามพวกเขาเตือนว่าพวกนักรบไอเอสและเหล่าผู้สนับสนุน แสดงให้เห็นถึงเจตนาและความสามารถในการเล่นงานพลเมืองสหรัฐฯในต่างแดน
