นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขมีการประชุมวอร์รูมติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคอีโบลาทุกวัน พบว่ายังคงมีแนวโน้มระบาดอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ 4 ประเทศในแอฟริกาตะวันตก พบผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศไลบีเรีย
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกรายงานเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ระบุ มีผู้ป่วย 3,069 ราย เสียชีวิต 1,552 ราย ใน 4 ประเทศ ได้แก่ กินี เซียร์ราลีโอน ไลบีเรีย และเมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย คิดเป็นอัตราป่วยตายร้อยละ 52 เป็นเรื่องที่ทุกประเทศต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและร่วมมือกันเฝ้าระวังป้องกันโรคอย่างเต็มที่
ในส่วนของประเทศไทย ขณะนี้กำลังใช้ 3 มาตรการอย่างเข้มแข็ง คือ การเฝ้าระวังในคนและในสัตว์ เพื่อค้นหาผู้ที่อาจติดเชื้อจากพื้นที่ระบาดให้ได้ไวที่สุด การดูแลรักษาตามมาตรฐาน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยให้ดีที่สุด ซึ่งเหตุการณ์ระบาดในอาฟริกาในขณะนี้ผู้ป่วยรอดชีวิตประมาณร้อยละ 48
มาตรการที่ 2 คือการชันสูตรทางห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ทราบว่าติดเชื้ออีโบลาหรือไม่ และมาตรการสุดท้าย คือการสื่อสารให้ความรู้ความเข้าใจประชาชน เพื่อสร้างความร่วมมือกันในการเฝ้าระวังโรคและป้องกันความตระหนก จนถึงวันนี้ไทยยังไม่พบผู้ที่อยู่ในข่ายสงสัยว่าติดเชื้ออีโบลา ได้ให้หน่วยงานสาธารณสุขทุกจังหวัดดำเนินการตามระบบที่เตรียมความพร้อมไว้อย่างต่อเนื่อง และแนะนำประชาชนไทย หากไม่มีความจำเป็นควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่โรคระบาด จนกว่าการระบาดจะสงบ หากจำเป็นต้องเดินทางไป ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการประเทศนั้นอย่างเคร่งครัด และเมื่อเดินทางกลับก็ให้ความร่วมมือในการติดตามเฝ้าระวังโรคตามระบบที่วางไว้
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกรายงานเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ระบุ มีผู้ป่วย 3,069 ราย เสียชีวิต 1,552 ราย ใน 4 ประเทศ ได้แก่ กินี เซียร์ราลีโอน ไลบีเรีย และเมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย คิดเป็นอัตราป่วยตายร้อยละ 52 เป็นเรื่องที่ทุกประเทศต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและร่วมมือกันเฝ้าระวังป้องกันโรคอย่างเต็มที่
ในส่วนของประเทศไทย ขณะนี้กำลังใช้ 3 มาตรการอย่างเข้มแข็ง คือ การเฝ้าระวังในคนและในสัตว์ เพื่อค้นหาผู้ที่อาจติดเชื้อจากพื้นที่ระบาดให้ได้ไวที่สุด การดูแลรักษาตามมาตรฐาน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยให้ดีที่สุด ซึ่งเหตุการณ์ระบาดในอาฟริกาในขณะนี้ผู้ป่วยรอดชีวิตประมาณร้อยละ 48
มาตรการที่ 2 คือการชันสูตรทางห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ทราบว่าติดเชื้ออีโบลาหรือไม่ และมาตรการสุดท้าย คือการสื่อสารให้ความรู้ความเข้าใจประชาชน เพื่อสร้างความร่วมมือกันในการเฝ้าระวังโรคและป้องกันความตระหนก จนถึงวันนี้ไทยยังไม่พบผู้ที่อยู่ในข่ายสงสัยว่าติดเชื้ออีโบลา ได้ให้หน่วยงานสาธารณสุขทุกจังหวัดดำเนินการตามระบบที่เตรียมความพร้อมไว้อย่างต่อเนื่อง และแนะนำประชาชนไทย หากไม่มีความจำเป็นควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่โรคระบาด จนกว่าการระบาดจะสงบ หากจำเป็นต้องเดินทางไป ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการประเทศนั้นอย่างเคร่งครัด และเมื่อเดินทางกลับก็ให้ความร่วมมือในการติดตามเฝ้าระวังโรคตามระบบที่วางไว้
