เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทางการซาอุดีอาระเบียยืนยันไม่สั่งห้ามผู้แสวงบุญจาก “ไนจีเรีย” เดินทางมาประกอบพิธีฮัจญ์ แม้ไนจีเรียจะเป็นหนึ่งในประเทศที่พบการระบาดของเชื้อไวรัสมรณะ “อีโบลา”
กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียออกคำแถลงในวันจันทร์ (8 ก.ย.) ยืนยันว่าจะไม่มีการสั่งห้ามผู้แสวงบุญชาวไนจีเรียเข้าประเทศ เนื่องจากการระบาดของเชื้ออีโบลาในไนจีเรียยังอยู่ในวงจำกัด
ด้านโมฮัมเหม็ด อัล-คาชีม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียออกมาเปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องวิตกกังวลต่อการมาถึงของผู้แสวงบุญจากไนจีเรีย ที่คาดว่าจะเดินทางมาประกอบพิธีฮัจญ์ในปีนี้ราว 70,000 คน และย้ำว่าทางการซาอุฯ มีมาตรการรองรับหากเกิด “สถานการณ์ไม่คาดฝัน” ทางด้านสาธารณสุข
ก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียประกาศเมื่อเดือนเมษายนว่าจะ “ไม่ออกวีซ่า” ให้แก่ผู้แสวงบุญจากเซียร์ราลีโอน ไลบีเรีย และกินี ในการเดินทางมาร่วมพิธีฮัจญ์ในเดือนตุลาคมปีนี้ โดยระบุเหตุผล คือ การระบาดที่เข้าขั้น “ลุกลามหนัก” ของเชื้ออีโบลาในประเทศแอฟริกาตะวันตกทั้งสาม หวั่นนำเชื้อมรณะที่ยังไม่มีหนทางรักษาเข้ามาแพร่ระบาดในราชอาณาจักรกลางทะเลทรายของตน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางการซาอุดีอาระเบียมีขึ้นหลังองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมายืนยันยอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้ออีโบลาใน 3 ประเทศแถบภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก คือ เซียร์ราลีโอน ไลบีเรีย และกินี ได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 2,097 รายแล้ว
ทั้งนี้ ทางการไนจีเรียยืนยันว่าจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากการตกเป็นเหยื่อเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศของตนไปแล้วอย่างน้อย 8 ราย จากจำนวนผู้ติดเชื้อ 23 คน