รศ.ดร.เชนินทร์ เชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) (RWI) เปิดเผยถึงผลการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ต่อนักลงทุนในเขตกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยเข้าร่วมรับฟังข้อมูลอย่างคึกคัก แสดงให้เห็นว่านักลงทุนให้ความสนใจในธุรกิจที่บริษัทดำเนินการอยู่ อีกทั้งเชื่อมั่นปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจและมองเห็นถึงศักยภาพของบริษัทที่จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต ทำให้มั่นใจว่าในช่วงที่เปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอ กระแสการตอบรับจากนักลงทุนจะเป็นไปอย่างคึกคักเช่นกัน
“ผลการโรดโชว์ต่อนักลงทุนในกรุงเทพฯ มีกระแสตอบรับที่ดีมาก โดยนักลงทุนให้ความสนใจสอบถามข้อมูลในด้านต่างๆ ของ RWI อย่างละเอียด และด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี ในวงการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลวดเหล็กที่มีคุณภาพที่ขยายตัวตามภาคการก่อสร้างและกลุ่มอุตสาหกรรม อีกทั้งบริษัทยังเป็น 1 ใน 5 รายแรกที่เป็นผู้นำด้านส่วนแบ่งการตลาดของกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต PC-WIRE และ PC-STRAND โดยมีฐานลูกค้าอยู่ทั่วประเทศกว่า 500 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำของบริษัท ส่งผลให้บริษัทมีศักยภาพที่จะสามารถเติบโตได้อีกมากในอนาคต จึงมั่นใจว่าในวันที่เปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ RWI จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน”
ด้านนายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ กล่าวถึงผลการโรดโชว์ว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากธุรกิจของบริษัทน่าสนใจอย่างมากสำหรับการลงทุน เพราะอิงกับอุตสาหกรรมก่อสร้าง สาธารณูปโภคพื้นฐาน และภาคอุตสาหกรรมที่เติบโตทุกปี ซึ่งเชื่อว่าผลจากการผลโรดโชว์จะทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อ RWI มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ RWI จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขาย 1.60 บาทต่อหุ้น ซึ่งราคาไอพีโอดังกล่าว มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ประมาณ.8.58 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E ของตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงระยะเวลา 1 ปี (ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. 56 – 30 มิ.ย. 57) ซึ่งอยู่ที่ 33.18 เท่า
สำหรับผู้ถือหุ้นของ CEN (Pre-emptive Right) จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น จะเปิดให้จองซื้อ ระหว่างวันที่ 3-5 กันยายน 2557 ในอัตราส่วน 10.5027 หุ้นเดิมของ CEN ต่อ 1 หุ้น บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) (RWI) ส่วนที่เหลือจากการจัดสรรตามสิทธิ Preemptive Right จะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไประหว่างวันที่ 10-12 กันยายน 2557 เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 18 กันยายนนี้
“ผลการโรดโชว์ต่อนักลงทุนในกรุงเทพฯ มีกระแสตอบรับที่ดีมาก โดยนักลงทุนให้ความสนใจสอบถามข้อมูลในด้านต่างๆ ของ RWI อย่างละเอียด และด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี ในวงการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลวดเหล็กที่มีคุณภาพที่ขยายตัวตามภาคการก่อสร้างและกลุ่มอุตสาหกรรม อีกทั้งบริษัทยังเป็น 1 ใน 5 รายแรกที่เป็นผู้นำด้านส่วนแบ่งการตลาดของกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต PC-WIRE และ PC-STRAND โดยมีฐานลูกค้าอยู่ทั่วประเทศกว่า 500 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำของบริษัท ส่งผลให้บริษัทมีศักยภาพที่จะสามารถเติบโตได้อีกมากในอนาคต จึงมั่นใจว่าในวันที่เปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ RWI จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน”
ด้านนายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ กล่าวถึงผลการโรดโชว์ว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากธุรกิจของบริษัทน่าสนใจอย่างมากสำหรับการลงทุน เพราะอิงกับอุตสาหกรรมก่อสร้าง สาธารณูปโภคพื้นฐาน และภาคอุตสาหกรรมที่เติบโตทุกปี ซึ่งเชื่อว่าผลจากการผลโรดโชว์จะทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อ RWI มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ RWI จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขาย 1.60 บาทต่อหุ้น ซึ่งราคาไอพีโอดังกล่าว มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ประมาณ.8.58 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E ของตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงระยะเวลา 1 ปี (ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. 56 – 30 มิ.ย. 57) ซึ่งอยู่ที่ 33.18 เท่า
สำหรับผู้ถือหุ้นของ CEN (Pre-emptive Right) จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น จะเปิดให้จองซื้อ ระหว่างวันที่ 3-5 กันยายน 2557 ในอัตราส่วน 10.5027 หุ้นเดิมของ CEN ต่อ 1 หุ้น บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) (RWI) ส่วนที่เหลือจากการจัดสรรตามสิทธิ Preemptive Right จะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไประหว่างวันที่ 10-12 กันยายน 2557 เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 18 กันยายนนี้
