นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด (อสส.) กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งสำนวนและพยานหลักฐานต่างๆ พร้อมชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานละเลยเพิกเฉยไม่ยับยั้งการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวจนทำให้รัฐเสียหาย ให้ อสส.พิจารณา ว่า ขณะนี้ตนได้ตั้งคณะทำงานขึ้นพิจารณาคดีนี้ ประกอบด้วย นายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร รองอัยการสูงสุด เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน นายถาวร พานิชพันธ์อดีต รองอัยการสูงสุด ปัจจุบันเป็นอัยการอาวุโส สำนักงานสอบสวนเป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน และ นส.ปราณี รัตนชัยวงศ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 5 เป็นผู้พิจารณาสำนวน ก่อนทำความเห็นนำเสนอตนเพื่อพิจารณาภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน
ส่วนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมและขอให้สอบพยานเพิ่มเติมกว่า 50 ปาก จะพิจารณาได้ทันภายในเวลา 30 วันหรือไม่นั้น นายตระกูล กล่าวว่า คณะทำงานจะพิจารณาตามแนวทางจากสำนวนที่ ป.ป.ช.ยื่นเข้ามาเป็นหลักว่าพยานหลักฐานในสำนวนครบถ้วนสมบูรณ์เพียงพอหรือไม่ หากพบว่าพยานหลักฐานเพียงพอแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสอบพยานเพิ่มอีกแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทางคณะทำงานก็จะพิจารณาด้วยความรอบคอบ เร่งรัด และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายตามหลักการทำงาน
ส่วนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมและขอให้สอบพยานเพิ่มเติมกว่า 50 ปาก จะพิจารณาได้ทันภายในเวลา 30 วันหรือไม่นั้น นายตระกูล กล่าวว่า คณะทำงานจะพิจารณาตามแนวทางจากสำนวนที่ ป.ป.ช.ยื่นเข้ามาเป็นหลักว่าพยานหลักฐานในสำนวนครบถ้วนสมบูรณ์เพียงพอหรือไม่ หากพบว่าพยานหลักฐานเพียงพอแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสอบพยานเพิ่มอีกแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทางคณะทำงานก็จะพิจารณาด้วยความรอบคอบ เร่งรัด และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายตามหลักการทำงาน
