อัยการสูงสุดคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดี ป.ป.ช.ชี้มูล “ยิ่งลักษณ์” ละเลยไม่ยับยั้งโครงการจำนำข้าว เผยยึดสำนวน ป.ป.ช.เป็นหลัก หากพยานหลักฐานเพียงพอเอาผิด ก็ไม่จำเป็นต้องสอบพยานเพิ่ม
วันนี้ (9 ส.ค.) นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้าในคดีที่คณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งสำนวนเอกสารหลักฐานชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ละเลยไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวที่ทำให้รัฐเสียหายมายื่นให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้องว่า ขณะนี้ตนได้ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาสำนวนที่ ป.ป.ช.ส่งมาแล้ว โดยคณะทำงาน ประกอบด้วย นายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร รองอัยการสูงสุด เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน นายถาวร พานิชพันธ์ อดีตรองอัยการสูงสุด อัยการอาวุโสสำนักงานสอบสวน เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน และนางปราณี รัตนชัยวงศ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 5 ซึ่งคณะทำงานชุดที่กล่าวมานี้จะเป็นผู้พิจารณาสำนวนที่ ป.ป.ช. ส่งมาเพื่อนำเสนอตนพิจารณาภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน
เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ร้องขอความเป็นธรรม และขอให้สอบพยานเพิ่มเติมถึง 50 กว่าปาก จะพิจารณาสำนวนให้เสร็จทันภายใน 30 วันหรือไม่ อัยการสูงสุดกล่าวว่า ผู้ต้องหาได้ร้องขอความเป็นธรรมโดยขอให้สืบพยานเพิ่มตามที่ปรากฏเป็นข่าว แต่แนวทางการพิจารณาของคณะทำงานจะพิจารณาจากสำนวนที่ ป.ป.ช.ยื่นเข้ามาเป็นหลักว่าพยานหลักฐานในสำนวนนั้นเพียงพอที่จะเอาผิดผู้ต้องหาได้หรือไม่ หากพบว่า พยานหลักฐานเพียงพอแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสอบพยานเพิ่มอีกแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ คณะทำงานก็จะพิจารณาดูให้รอบคอบอีกที โดยเป็นไปตามหลักเร่งรัด และรอบคอบ