นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับผิดมอบอำนาจจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีรับจำนำข้าว เข้ายื่นเอกสารและคำร้องเพื่อขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด โดยมีนายสมเกียรติ คุววัฒนานนท์ รองเลขานุการอัยการสูงสุด เป็นผู้รับหนังสือ
นายนรวิชญ์ ระบุว่า สำนวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ยังไม่สมบูรณ์ในหลายประเด็นและเร่งทำคดี รวมทั้งการกล่าวหานางสาวยิ่งลักษณ์ ว่าทุจริตทุกขั้นตอน แต่กลับไม่มีหลักฐานว่าทุจริตในขั้นตอนใด
นอกจากนี้ จากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ตั้งคณะกรรมการลงพื้นที่ตรวจข้าว และพบข้าวเน่าเสียจำนวนน้อยกว่าที่กำหนด แสดงให้เห็นว่าโครงการดังกล่าวไม่มีการทุจริต จึงมั่นใจว่าอัยการสูงสุดจะรับฟังคำร้องและให้ความเป็นธรรมแก่นางสาวยิ่งลักษณ์
ขณะเดียวกัน หากข้อมูลในสำนวนไม่เพียงพอ หรือยังไม่สมบูรณ์ จะมีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุด กับ ป.ป.ช. โดยในส่วนนี้ได้เตรียมพยานบุคคลไว้จำนวน 50 ปาก ซึ่งไม่ได้เป็นการยื้อเวลาแต่อย่างใด เพราะถือเป็นสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานของผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งเป็นไปตามที่นางสาวยิ่งลักษณ์ต้องการ คือให้นำเสนอข้อเท็จจริงให้มากที่สุดเพื่อให้แต่ละภาคส่วนที่เกี่ยวข้องพิจารณาอย่างรอบด้าน
นายนรวิชญ์ ระบุว่า สำนวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ยังไม่สมบูรณ์ในหลายประเด็นและเร่งทำคดี รวมทั้งการกล่าวหานางสาวยิ่งลักษณ์ ว่าทุจริตทุกขั้นตอน แต่กลับไม่มีหลักฐานว่าทุจริตในขั้นตอนใด
นอกจากนี้ จากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ตั้งคณะกรรมการลงพื้นที่ตรวจข้าว และพบข้าวเน่าเสียจำนวนน้อยกว่าที่กำหนด แสดงให้เห็นว่าโครงการดังกล่าวไม่มีการทุจริต จึงมั่นใจว่าอัยการสูงสุดจะรับฟังคำร้องและให้ความเป็นธรรมแก่นางสาวยิ่งลักษณ์
ขณะเดียวกัน หากข้อมูลในสำนวนไม่เพียงพอ หรือยังไม่สมบูรณ์ จะมีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุด กับ ป.ป.ช. โดยในส่วนนี้ได้เตรียมพยานบุคคลไว้จำนวน 50 ปาก ซึ่งไม่ได้เป็นการยื้อเวลาแต่อย่างใด เพราะถือเป็นสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานของผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งเป็นไปตามที่นางสาวยิ่งลักษณ์ต้องการ คือให้นำเสนอข้อเท็จจริงให้มากที่สุดเพื่อให้แต่ละภาคส่วนที่เกี่ยวข้องพิจารณาอย่างรอบด้าน