นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการค้าข้าวส่วนใหญ่เห็นด้วยกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะตรวจสต๊อกข้าวตามโกดังต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเอกสารเกี่ยวกับการรับมอบและส่งมอบข้าวของรัฐบาลที่ผ่านมา จะสรุปให้เสร็จภายในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ จากนั้นจะดำเนินการตรวจสอบสต๊อกปริมาณข้าวตามโกดังทั่วประเทศในลักษณะปูพรม เชื่อว่าน่าจะสรุปผลปริมาณข้าวแท้จริงในโกดัง ว่าตรงตามเอกสารทั้งการรับมอบและการส่งมอบหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อจะได้รู้ชนิด อายุ และประเภทข้าว เพื่อกำหนดแนวทางระบายสต๊อกข้าว ซึ่งหลังจาก คสช.ชะลอการระบายข้าว ทำให้ราคาข้าวเปลือกในตลาดปรับตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉลี่ยประมาณ 8,000 บาทต่อตัน ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ต่างรับราคานี้กันได้
ขณะเดียวกัน เห็นว่า หากใช้เวลาตรวจข้าวในสต๊อกนานเกินไป อาจจะทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพ และขณะนี้ราคาตลาดโลกเริ่มปรับตัวดีขึ้น ผู้ส่งออกอยากเห็นราคาข้าวเปลือกจนถึงสิ้นปีประมาณ 8,000-9,000 บาทต่อตัน น่าจะทำให้ราคาข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ในตลาดโลก เฉลี่ยตันละ 420-450 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นราคาที่ผู้ส่งออกพอใจและแข่งขันกับประเทศผู้ส่งออกข้าวอื่นๆ ได้
ทั้งนี้ จะเสนอแนะให้ คสช.เร่งส่งมอบข้าวให้กับผู้ส่งออกที่ชนะการประมูลที่ผ่านมา หลังจากตรวจเอกสารและปริมาณข้าวเสร็จแล้ว เพื่อให้ส่งออกได้โดยเร็ว แต่หากปริมาณข้าวหรือโกดังใดที่คาดว่ามีปัญหา ก็ควรตรวจสอบต่อไป
ขณะเดียวกัน เห็นว่า หากใช้เวลาตรวจข้าวในสต๊อกนานเกินไป อาจจะทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพ และขณะนี้ราคาตลาดโลกเริ่มปรับตัวดีขึ้น ผู้ส่งออกอยากเห็นราคาข้าวเปลือกจนถึงสิ้นปีประมาณ 8,000-9,000 บาทต่อตัน น่าจะทำให้ราคาข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ในตลาดโลก เฉลี่ยตันละ 420-450 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นราคาที่ผู้ส่งออกพอใจและแข่งขันกับประเทศผู้ส่งออกข้าวอื่นๆ ได้
ทั้งนี้ จะเสนอแนะให้ คสช.เร่งส่งมอบข้าวให้กับผู้ส่งออกที่ชนะการประมูลที่ผ่านมา หลังจากตรวจเอกสารและปริมาณข้าวเสร็จแล้ว เพื่อให้ส่งออกได้โดยเร็ว แต่หากปริมาณข้าวหรือโกดังใดที่คาดว่ามีปัญหา ก็ควรตรวจสอบต่อไป