นายวิทยา อาคมพิทักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบสต๊อกข้าวในโกดังกลางและโรงสีทั่วประเทศ ร่วมกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า การดำเนินคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกและการระบายข้าว ได้แยกการตรวจสอบและพิจารณาคดีออกเป็นส่วนๆ โดย ป.ป.ช.เน้นตรวจสอบโกดังกลางและโรงสีที่พบข้อมูลว่าปริมาณข้าวในสต๊อกสูญหายและข้าวเสื่อมคุณภาพ ขณะที่คณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณข้าวของ คสช. อยู่ระหว่างรวบรวมตัวเลขการตรวจสอบสต๊อกข้าวทั้งหมด และใกล้ปิดตัวเลขดังกล่าวได้แล้ว
ทั้งนี้ ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อผู้กระทำผิดแล้ว ในส่วนปริมาณข้าวที่หายจากโกดังกลางและโรงสีเกิน 5 เปอร์เซนต์ และปริมาณข้าวเสื่อมคุณภาพ
สำหรับคดีการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี หรือรัฐบาลต่อรัฐบาล กับรัฐบาลจีน ไม่มีการส่งออกข้าวจริง ในส่วนคดีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมพวก และตัวแทนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง จะทยอยสรุปสำนวนคดี เนื่องจากมีผู้ร่วมกระทำความผิดจำนวนมาก ขณะนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว และอยู่ในขั้นตอนผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเข้ามาตรวจสอบเอกสารต่างๆ คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีส่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาชี้มูลความความผิดได้หรือไม่ภายในระยะเวลา 2-3 เดือน
ทั้งนี้ ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อผู้กระทำผิดแล้ว ในส่วนปริมาณข้าวที่หายจากโกดังกลางและโรงสีเกิน 5 เปอร์เซนต์ และปริมาณข้าวเสื่อมคุณภาพ
สำหรับคดีการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี หรือรัฐบาลต่อรัฐบาล กับรัฐบาลจีน ไม่มีการส่งออกข้าวจริง ในส่วนคดีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมพวก และตัวแทนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง จะทยอยสรุปสำนวนคดี เนื่องจากมีผู้ร่วมกระทำความผิดจำนวนมาก ขณะนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว และอยู่ในขั้นตอนผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเข้ามาตรวจสอบเอกสารต่างๆ คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีส่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาชี้มูลความความผิดได้หรือไม่ภายในระยะเวลา 2-3 เดือน
