นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติไม่รับสอบปากคำพยานบุคคลเพิ่มเติมอีก 8 ปาก ตามที่ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีอาญาเกี่ยวกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกและการระบายข้าว ยื่นขอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา ซึ่งถือว่าพยานบุคคลและเอกสารหลักฐานต่างๆอยู่ในกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงและการพิจารณาแล้วไม่จำเป็นต้องสอบปากคำพยานบุคคลเพิ่มอีก เพราะมีพยานหลักฐานและเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ถือเป็นอันสิ้นสุดกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ ให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ดำเนินการจัดทำหนังสือแจ้งไปยังทนายความผู้รับมอบอำนาจจากอดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว จากนั้นคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงจะนำเข้าสู่กระบวนการรวบรวมหลักฐานและสรุปสำนวนคดีอาญาในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกและการระบายข้าว เพื่อเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาต่อไป คาดว่าจะชี้มูลความผิดได้หรือไม่ประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้
ส่วนคดีการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี หรือ รัฐบาลต่อรัฐบาล กับรัฐบาลจีน ไม่มีการส่งออกข้าวจริง ในส่วนคดีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมพวก และตัวแทนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องจะทยอยสรุปสำนวนคดี เนื่องจากมีผู้ร่วมกระทำความผิดจำนวนมาก
ทั้งนี้ ให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ดำเนินการจัดทำหนังสือแจ้งไปยังทนายความผู้รับมอบอำนาจจากอดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว จากนั้นคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงจะนำเข้าสู่กระบวนการรวบรวมหลักฐานและสรุปสำนวนคดีอาญาในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกและการระบายข้าว เพื่อเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาต่อไป คาดว่าจะชี้มูลความผิดได้หรือไม่ประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้
ส่วนคดีการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี หรือ รัฐบาลต่อรัฐบาล กับรัฐบาลจีน ไม่มีการส่งออกข้าวจริง ในส่วนคดีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมพวก และตัวแทนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องจะทยอยสรุปสำนวนคดี เนื่องจากมีผู้ร่วมกระทำความผิดจำนวนมาก