นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยถึงกรณีที่ ป.ป.ช.จะดำเนินคดีอาญากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกกล่าวหาว่าละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ว่า ต้องรอรวบรวมข้อมูลอีกครั้งว่ามีความสมบูรณ์ครบถ้วนหรือไม่ โดยเฉพาะพยานที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นำมาอ้างอิงเพิ่มเติมอีก 6 ปาก ซึ่งที่ประชุม ป.ป.ช.จะมีการพิจารณาในสัปดาห์หน้า
ส่วนประเด็นที่จะพิจารณาประกอบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้มีเจตนาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จริงหรือไม่นั้น คิดว่าการดำเนินคดีอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่จำเป็นต้องรอการพิจารณาคดีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กรณีการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับรัฐบาลจีน ถือว่าเป็นคนละส่วนกัน ซึ่ง 2 คดีแยกกันไม่อาจเอามารวมกันได้ อีกทั้งคดีของนายบุญทรง ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จทั้งหมดในคราวเดียวกันได้ เนื่องจากมีข้อมูลจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม นายวิชา กล่าวด้วยว่า ผู้ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลถอดถอนออกจากตำแหน่ง อาจไม่มีความผิดในคดีอาญาก็ได้ ซึ่งต้องอยู่กับพยานหลักฐาน เช่น กรณีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ถูกชี้มูลถอดถอนจากกรณีโยกย้าย ส.ส.มาช่วยงานในกระทรวงต่างๆ ซึ่งถือว่าผิดจริยธรรมทางการเมือง
ส่วนประเด็นที่จะพิจารณาประกอบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้มีเจตนาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จริงหรือไม่นั้น คิดว่าการดำเนินคดีอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่จำเป็นต้องรอการพิจารณาคดีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กรณีการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับรัฐบาลจีน ถือว่าเป็นคนละส่วนกัน ซึ่ง 2 คดีแยกกันไม่อาจเอามารวมกันได้ อีกทั้งคดีของนายบุญทรง ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จทั้งหมดในคราวเดียวกันได้ เนื่องจากมีข้อมูลจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม นายวิชา กล่าวด้วยว่า ผู้ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลถอดถอนออกจากตำแหน่ง อาจไม่มีความผิดในคดีอาญาก็ได้ ซึ่งต้องอยู่กับพยานหลักฐาน เช่น กรณีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ถูกชี้มูลถอดถอนจากกรณีโยกย้าย ส.ส.มาช่วยงานในกระทรวงต่างๆ ซึ่งถือว่าผิดจริยธรรมทางการเมือง
