นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในการก่อหนี้ภาคครัวเรือนปี 57 โดยสำรวจประชาชน 1,200 ราย ระหว่างวันที่ 14-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า หนี้สินครัวเรือนเฉลี่ยที่ 219,158.2 บาท เป็นตัวเลขที่สูงสุดตั้งแต่มีการสำรวจมา 9 ปี หรือตั้งแต่ปี 49 เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้รายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายและค่าครองชีพที่สูงขึ้นโดยแหล่งที่มาของหนี้จะเป็นหนี้นอกระบบร้อยละ 49.1 และในระบบร้อยละ 50.1
สำหรับแนวทางในการชำระหนี้ของประชาชนส่วนใหญ่ ต้องชำระต่อเดือนเฉลี่ยที่ 13,358.35 บาทต่อเดือน หนี้นอกระบบผ่อนชำระเฉลี่ยที่ 8,104.7 บาท โดยวัตถุประสงค์การกู้ยืมก็เปลี่ยนจากปีก่อนๆ ที่อันดับแรก ร้อยละ 40 กู้เพื่อการลงทุนและซื้อทรัพย์สินรองลงมาเป็นการกู้เพื่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพื่อชำระเงินกู้นอกระบบและชำระหนี้จากการพนัน
สาเหตุที่ทำให้หนี้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน มาจากค่าครองชีพสูงขึ้นมากที่สุด รองลงมาเป็นเรื่องค่าเล่าเรียนบุตรหลาน การผ่อนสินค้ามากเกินไป หนี้ที่เกิดจากภัยธรรมชาติ มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมาก หนี้ที่เกิดจากการรับเงินในโครงการจำนำข้าวล่าช้า ขาดรายได้เนื่องจากถูกออกจากงาน การซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ และการเป็นหนี้จากการพนันบอล เป็นต้น
สำหรับแนวทางในการชำระหนี้ของประชาชนส่วนใหญ่ ต้องชำระต่อเดือนเฉลี่ยที่ 13,358.35 บาทต่อเดือน หนี้นอกระบบผ่อนชำระเฉลี่ยที่ 8,104.7 บาท โดยวัตถุประสงค์การกู้ยืมก็เปลี่ยนจากปีก่อนๆ ที่อันดับแรก ร้อยละ 40 กู้เพื่อการลงทุนและซื้อทรัพย์สินรองลงมาเป็นการกู้เพื่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพื่อชำระเงินกู้นอกระบบและชำระหนี้จากการพนัน
สาเหตุที่ทำให้หนี้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน มาจากค่าครองชีพสูงขึ้นมากที่สุด รองลงมาเป็นเรื่องค่าเล่าเรียนบุตรหลาน การผ่อนสินค้ามากเกินไป หนี้ที่เกิดจากภัยธรรมชาติ มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมาก หนี้ที่เกิดจากการรับเงินในโครงการจำนำข้าวล่าช้า ขาดรายได้เนื่องจากถูกออกจากงาน การซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ และการเป็นหนี้จากการพนันบอล เป็นต้น