xs
xsm
sm
md
lg

ว่าที่ปธน.อินโดฯไม่สะทกสะท้านแม้คู่แข่งโวยถูกโกง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ท.ปราโบโว สุเบียนโต อดีตบุตรเขยของจอมเผด็จการซูฮาร์โต ซึ่งเป็นผู้พ่ายแพ้ศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการแล้ว ประกาศในวันพุธ (23 ก.ค.) ยื่นอุทธรณ์ศาลรัฐธรรมนูญคัดค้านผลที่ออกมา ถึงแม้คาดกันว่าความเคลื่อนไหวเช่นนี้จะไม่ส่งผลกระทบกระเทือนต่อชัยชนะของ “โจโควี” โจโค วิโดโด แต่อาจทำให้ช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนยืดเยื้อไปอีกหลายสัปดาห์ อย่างน้อยจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยเรื่องนี้ในราวปลายเดือนหน้า

คณะกรรมการการเลือกตั้งอินโดนีเซีย ประกาศอย่างเป็นทางการในคืนวันอังคาร (22) ว่า วิโดโด ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จัดขึ้นมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยที่เขาได้คะแนนเสียงเกือบๆ 71 ล้านคะแนน หรือ 53.15% ของผู้ออกเสียง ขณะที่ ปราโบโว ได้มากกว่า 62 ล้านเสียง หรือ 46.85%

ทว่า ไม่นานก่อนคณะกรรมการประกาศผลการเลือกตั้ง ปราโบโว ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นนักธุรกิจระดับมหาเศรษฐี และเป็นคู่แข่งเพียงคนเดียวของวิโดโด ได้ประกาศถอนตัวจากกระบวนการเลือกตั้งอย่างเดือดดาล โดยกล่าวหาว่า วิโดโดโกง

ทีมรณรงค์หาเสียงของปราโบโว ที่บัดนี้เท่ากับพ่ายศึกชิงตำแหน่งผู้นำแดนอิเหนามาแล้ว 2 สมัย แถลงหลังจากนั้นว่า ปราโบโวจะไม่ยื่นเรื่องคัดค้านผลการเลือกตั้งต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่ได้ร่วมสังฆกรรมกับกระบวนการเลือกตั้งอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม พอถึงวันพุธ (23) ตันโตวี ยาห์ยา โฆษกของปราโบโวก็ออกมากลับลำ โดยยืนกรานว่า พลโทนอกราชการผู้นี้ไม่ได้ถอนตัวจากกระบวนการเลือกตั้งทั้งหมด แต่คัดค้านเฉพาะการนับคะแนน จึงยังมีสิทธิ์ท้าทายผลการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซียมีกำหนดสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนตุลาคมนี้

วิโดโด กล่าวในวันพุธว่า การเตรียมการสำหรับรับตำแหน่งใหม่ของเขามีความคืบหน้าดี โดยขณะนี้ได้มีการจัดตั้งสำนักงานพิเศษมาดูแลกระบวนการนี้แล้ว

ในส่วนของหนังสือพิมพ์แดนอิเหนา ต่างแสดงความยินดีกับชัยชนะของวิโดโด “คอมปาส” หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของประเทศ ลงรูปวิโดโดยิ้มกว้างคู่กับยูซุฟ คัลลา ว่าที่รองประธานาธิบดี พร้อมคำบรรยายว่า “ถึงเวลาแล้วที่เราจะเดินหน้าไปด้วยกัน”

วลีดังกล่าวมาจากคำปราศรัยประกาศชัยชนะของวิโดโด เมื่อคืนวันอังคาร ซึ่งเขาเรียกร้องให้ชาวอินโดนีเซียสมัครสมานสามัคคี ภายหลังผ่านการเลือกตั้งครั้งที่เข้มข้นดุเดือดที่สุดนับแต่ที่ซูฮาร์โตหลุดจากอำนาจในปี 1998
กำลังโหลดความคิดเห็น