เมื่อวานนี้ (20 ก.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนินนอก พ.อ.ธีรวัฒน์ บุญยวัฒน์ รองเจ้ากรมยุทธการทหารบก เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ทั่วไปและรับทราบรายงานความคืบหน้าในการปฎิบัติงานของฝ่ายต่างๆ ตามนโยบายของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
พร้อมกันนี้ ในที่ประชุมได้สั่งให้มีการติดตามข่าวสารทางโซเซียลเน็ตเวิร์ค เนื่องจากขณะนี้มีการโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยเฉพาะกรณีของเฟซบุ๊ก "ผู้พันสู้ ตัวจริง" หรือ น.ต.ชนินทร์ คล้ายคลึง อดีตนายทหารสัญญาบัตร ประจำกองทัพอากาศ ที่ถูกให้ออกจากราชการ ได้โพสต์ข้อความในลักษณะดังกล่าว ทาง คสช. สั่งให้ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด รวมถึงปรากฎว่าขณะนี้มีการรวมตัวของกลุ่มบุคคลหลายกลุ่มที่พยายามออกมาต่อต้านการทำงานของ คสช. โดยจะเน้นไปที่กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทาง คสช. จะเร่งดำเนินการติดตามตัวมาปรับทัศนคติ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายรวมตัวเป็นกลุ่มใหญ่ซึ่งมีโอกาสสร้างความไม่สงบสุขและส่งผลกระทบต่อสังคม
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผย ภายหลังการประชุมความมั่นคงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ได้มีการหารือและได้เร่งรัดติดตามคดีเกี่ยวกับความมั่นคงที่ค้างอยู่ มีจำนวน 34 คดีในคดีความมั่นคงทั่วประเทศ
นอกจากนี้ กำลังติดตามความเคลื่อนไหวของน.ต. ชนินทร์ คล้ายคลึง เจ้าของเฟซบุ๊ก "ผู้พันสู้ ตัวจริง" ที่มีแผนจะถ่ายทอดสดโจมตีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในคืนนี้ โดยหากมีการถ่ายทอดสดและทำผิดกฎหมาย จะเร่งดำเนินคดีตามหลักฐานทันที
"จากกระแสข่าวที่ได้รับรายงาน จะมีผู้พันสู้ หรือ น.ต.ชนินทร์ คล้ายคลึง ออกมาแสดงความคิดเห็น พูดถึงการทำงานของ คสช. ผ่านเฟซบุ๊ก ด้วยภาพวีดีโอนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการติดตามการกระทำดังกล่าว หากเข้าข่ายการกระทำผิดก็จะมีการดำเนินคดีต่อไป"
พร้อมกันนี้ ในที่ประชุมได้สั่งให้มีการติดตามข่าวสารทางโซเซียลเน็ตเวิร์ค เนื่องจากขณะนี้มีการโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยเฉพาะกรณีของเฟซบุ๊ก "ผู้พันสู้ ตัวจริง" หรือ น.ต.ชนินทร์ คล้ายคลึง อดีตนายทหารสัญญาบัตร ประจำกองทัพอากาศ ที่ถูกให้ออกจากราชการ ได้โพสต์ข้อความในลักษณะดังกล่าว ทาง คสช. สั่งให้ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด รวมถึงปรากฎว่าขณะนี้มีการรวมตัวของกลุ่มบุคคลหลายกลุ่มที่พยายามออกมาต่อต้านการทำงานของ คสช. โดยจะเน้นไปที่กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทาง คสช. จะเร่งดำเนินการติดตามตัวมาปรับทัศนคติ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายรวมตัวเป็นกลุ่มใหญ่ซึ่งมีโอกาสสร้างความไม่สงบสุขและส่งผลกระทบต่อสังคม
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผย ภายหลังการประชุมความมั่นคงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ได้มีการหารือและได้เร่งรัดติดตามคดีเกี่ยวกับความมั่นคงที่ค้างอยู่ มีจำนวน 34 คดีในคดีความมั่นคงทั่วประเทศ
นอกจากนี้ กำลังติดตามความเคลื่อนไหวของน.ต. ชนินทร์ คล้ายคลึง เจ้าของเฟซบุ๊ก "ผู้พันสู้ ตัวจริง" ที่มีแผนจะถ่ายทอดสดโจมตีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในคืนนี้ โดยหากมีการถ่ายทอดสดและทำผิดกฎหมาย จะเร่งดำเนินคดีตามหลักฐานทันที
"จากกระแสข่าวที่ได้รับรายงาน จะมีผู้พันสู้ หรือ น.ต.ชนินทร์ คล้ายคลึง ออกมาแสดงความคิดเห็น พูดถึงการทำงานของ คสช. ผ่านเฟซบุ๊ก ด้วยภาพวีดีโอนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการติดตามการกระทำดังกล่าว หากเข้าข่ายการกระทำผิดก็จะมีการดำเนินคดีต่อไป"
