ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาวะตลาดเงินรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (14-18 ก.ค.) เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 4 เดือน ที่ 32.10 บาทต่อดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ อนึ่งเงินบาทอ่อนค่ากว่าระดับ 32.20 บาทต่อดอลลาร์ ช่วงสั้นๆ ปลายสัปดาห์ ท่ามกลางการเลี่ยงความเสี่ยงของนักลงทุน หลังมีรายงานข่าวเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ถูกยิงตกในยูเครน และมีข้อพิพาทที่รุนแรงขึ้นในฉนวนกาซา แต่กระนั้นกรอบการอ่อนค่าของเงินบาทดังกล่าว เป็นไปอย่างจำกัด และเงินบาทสามารถทยอยฟื้นตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงก่อนสุดสัปดาห์
ทั้งนี้ ในวันศุกร์ (18 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.13 เทียบกับระดับ 32.19 บาทต่อดอลลาร์ ในวันพฤหัสบดีก่อนหน้า (10 ก.ค.)
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (21-25 ก.ค.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.00-32.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องจับตาประเด็นทางเศรษฐกิจ-การเมืองในประเทศ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดขายบ้านมือสอง-บ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิถุนายน ดัชนีราคาบ้านเดือนพฤษภาคม และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังอาจจับตารายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนกรกฎาคม (เบื้องต้น) ของหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ในวันศุกร์ (18 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.13 เทียบกับระดับ 32.19 บาทต่อดอลลาร์ ในวันพฤหัสบดีก่อนหน้า (10 ก.ค.)
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (21-25 ก.ค.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.00-32.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องจับตาประเด็นทางเศรษฐกิจ-การเมืองในประเทศ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดขายบ้านมือสอง-บ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิถุนายน ดัชนีราคาบ้านเดือนพฤษภาคม และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังอาจจับตารายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนกรกฎาคม (เบื้องต้น) ของหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน
