นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับเพื่อพบปะหารือกับนายฝ่าม กวาง วิงห์ (Pham Quang Vinh) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ในโอกาสเยือนประเทศไทย โดยสองฝ่ายได้ร่วมกันเป็นประธานการประชุม Political Consultation Group ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 4 ซึ่งฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่กระทรวงการต่างประเทศ
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้กล่าวขอบคุณถึงมิตรภาพและความเข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองของไทย โดยเฉพาะการที่เวียดนามยกเลิกการประกาศเตือนพลเมืองของตนในการเดินทางมาเยือนไทย ทั้งยังได้ยืนยันอีกว่า ขณะนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำลังเร่งดำเนินการคืนความสงบสุขในสังคม ซึ่งฝ่ายเวียดนามหวังว่าไทยจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มโดยเร็ว
ส่วนประเด็นการหารือกันนั้น ฝ่ายไทยได้ย้ำที่จะพัฒนาความร่วมมือและความสัมพันธ์กับเวียดนามทุกมิติ ทั้งในการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม อาทิ การเพิ่มศักยภาพด้านการขนส่งสินค้าในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง การแก้ปัญหายาเสพติด การเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างประเทศมากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในอีก 5 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือในกรอบพหุภาคี โดยเฉพาะในกรอบอาเซียน โดยให้ความสำคัญกับการรักษาสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค โดยเฉพาะปัญหาข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ซึ่งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าปัญหาดังกล่าวจะต้องแก้ไขโดยสันติวิธี บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้สองฝ่ายยังเห็นควรให้ผลักดันการเจรจาการจัดทำ Code of Conduct เพื่อวางแนวทางการใช้ประโยชน์จากทะเลจีนใต้อย่างสันติต่อไป รวมทั้งสนับสนุนความร่วมมือทางทะเลระหว่างกันเพื่อเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและลดความตึงเครียดในทะเลจีนใต้
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้กล่าวขอบคุณถึงมิตรภาพและความเข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองของไทย โดยเฉพาะการที่เวียดนามยกเลิกการประกาศเตือนพลเมืองของตนในการเดินทางมาเยือนไทย ทั้งยังได้ยืนยันอีกว่า ขณะนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำลังเร่งดำเนินการคืนความสงบสุขในสังคม ซึ่งฝ่ายเวียดนามหวังว่าไทยจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มโดยเร็ว
ส่วนประเด็นการหารือกันนั้น ฝ่ายไทยได้ย้ำที่จะพัฒนาความร่วมมือและความสัมพันธ์กับเวียดนามทุกมิติ ทั้งในการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม อาทิ การเพิ่มศักยภาพด้านการขนส่งสินค้าในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง การแก้ปัญหายาเสพติด การเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างประเทศมากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในอีก 5 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือในกรอบพหุภาคี โดยเฉพาะในกรอบอาเซียน โดยให้ความสำคัญกับการรักษาสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค โดยเฉพาะปัญหาข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ซึ่งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าปัญหาดังกล่าวจะต้องแก้ไขโดยสันติวิธี บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้สองฝ่ายยังเห็นควรให้ผลักดันการเจรจาการจัดทำ Code of Conduct เพื่อวางแนวทางการใช้ประโยชน์จากทะเลจีนใต้อย่างสันติต่อไป รวมทั้งสนับสนุนความร่วมมือทางทะเลระหว่างกันเพื่อเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและลดความตึงเครียดในทะเลจีนใต้
