เชียงราย -พี่สาว “ยงยุทธ ติยะไพรัช” นายก อบจ.เชียงรายคนใหม่ แถลงนโยบายต่อสภา อบจ.ยันเดินหน้าปรองดอง ขจัดความขัดแย้งทางการเมือง เชื่อการเมืองระดับชาติไม่ปกติ ไม่มีผลต่องานท้องถิ่น
วันนี้ (10 มิ.ย.) นางบุศริณธญ์ วรพัฒนานันท์ นายก อบจ.เชียงราย ซึ่งชนะการเลือกตั้ง อบจ.เชียงรายเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้แถลงนโยบายต่อสภา อบจ.เชียงราย เป็นครั้งแรก ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย โดยมีกลุ่มสมาชิก อบจ.จากทั้ง 18 อำเภอในจังหวัดเชียงรายเข้ารับฟัง
นางบุศริณธญ์ได้แจ้งนโยบายต่อสภา อบจ.เชียงราย โดยสรุปว่าจะยึดมั่นต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพัฒนาจังหวัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชาวเชียงราย
โดยได้กำหนดนโยบายจำนวน 8 คือ 1. การธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2. พัฒนาเชียงรายเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวทั้งของประเทศ และอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3. บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมให้ดี พื้นที่มีความปลอดภัยน่าอยู่อาศัย และประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี 4. ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้ได้มาตรฐาน และอำนวยความสะดวก
5. พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น สนับสนุนการศึกษา การวิจัย 6. ทำนุบำรุงศาสนา รักษาเอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรม สภาพแวดล้อมทางสถาปัตยกรรม โบราณสถาน และแหล่งประวัติศาสตร์ รวมทั้งศิลปวัฒนธรรม จารีต ประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น
7. บูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการป้องกันบรรเทาสาธารณภัย พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยในท้องถิ่นให้มีประสิทธิภาพ 8. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ อบจ.เชียงราย
นางบุศริณธญ์กล่าวอีกว่า การทำงานเร่งด่วนของผู้บริหารชุดใหม่ คือการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยจากแผ่นดินไหว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เสียหายหนัก เช่น อ.แม่ลาว อ.พาน อ.แม่สรวย เบื้องต้นตนจะเข้าไปสำรวจพื้นที่ หลังจากก่อนหน้านี้ทาง อบจ.เชียงราย ได้นำเครื่องจักรกลเข้าไปรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแล้ว
“จะเดินหน้าความปรองดอง ไม่มีความขัดแย้งทางการเมือง แยกการพัฒนาท้องถิ่นออกมา โดยเชื่อว่าการเมืองของประเทศที่ยังไม่ปกติจะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารท้องถิ่น เพราะเป็นคนละส่วนกัน” นางบุศริณธญ์กล่าว
ด้าน นายเอกชัย เรือนทอง ผู้อำนวยการ กกต.เชียงราย กล่าวว่า ในการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงรายที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนเข้าไปยัง กกต.ประมาณ 10 เรื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องให้ร้ายป้ายสี การทำลายป้ายหาเสียง การตรวจค้นเงิน และอาวุธ
ล่าสุดขณะนี้ กกต.กลางอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งตามระเบียบแล้วหากเรื่องร้องเรียนมีมูลสามารถมีผลย้อนหลังได้ แม้จะมีการรับรองผลการเลือกตั้งไปแล้ว เพราะตามกฎหมาย ทาง กกต.จำเป็นต้องประกาศรับรองผลไปก่อนใน 30 วัน